xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโผ 7 หุ้น "กลาง-เล็ก" ปันผลเกิน 3.5% ลดเสี่ยงตลาดผันผวนช่วงปลายปี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โบรกเกอร์คาดปลายปีนี้แรงซื้อสถาบันจะแผ่วกว่าทุกปี หลังไร้ LTF ช่วยหนุน แต่เชื่อตลาดยังได้แค่รายย่อยช่วยพยุง แถมปัจจัยกดดันเพียบ พร้อมชวนลงทุนหุ้นกลาง-เล็ก 7 บจ. ปันผลสูงกว่า 3.5%

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์รายวันว่า แรงขายของต่างชาติที่มีมาต่อเนื่องกว่า 2.87 แสนล้านบาท (ytd) บวกกับแรงซื้อของสถาบันฯ ในช่วงที่เหลือของปีมีโอกาสแผ่วลง เนื่องจากแรงซื้อกองทุน LTF ที่มักกระจุกตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีหายไปเป็นปีแรก

ขณะที่นักลงทุนรายย่อยยังคงเป็นพระเอกในการผลักดันดัชนีในปีนี้ โดยเฉพาะหุ้นกลาง-เล็ก ที่ Outperform ตลาดเป็นพิเศษในปีนี้ สะท้อนได้จาก mai Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.6% ytd รองลงมา คือ SSET Index ลดลง -6.9% ytd, SET Index ลดลง -20% ytd และ SET50 Index ปรับตัวลดลงมากสุด 25.6% ytd

ตลาดหุ้นยังเสี่ยง การเมือง-โควิด-19 เน้นลงทุนหุ้นกลาง-เล็ก

เอเซียพลัส ระบุว่า ปัจจุบัน ตลาดหุ้นยังเผชิญกับหลายความเสี่ยง ทั้งการเมืองยังไม่นิ่ง COVID-19 ยังระบาด รวมถึงประเด็นงดจ่ายปันผลของหุ้นหลายบริษัท (เช่น หุ้นกลุ่ม ธ.พ.) ซึ่งปัจจุบันฝ่ายวิจัยประเมิน Dividend Yield63F ของ SET Index (ณ วันที่ 14 ต.ค.63) เท่ากับ 2.55% ต่อปี ลดลงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตเกิน 3% ต่อปี

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ แนะนำหุ้นขนาดกลาง-เล็ก พื้นฐานแข็งแกร่ง ยิ่งมีการจ่ายปันผลสูง ยิ่งเป็นเป้าหมายของนักลงทุนในเวลาที่ตลาดผันผวน โดยฝ่ายวิจัยคัดกรองหุ้นที่ผ่านเงื่อนไขดังต่อไปนี้ 1.เป็นหุ้นที่มี Market Cap. น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท 2.มี Dividend Yield มากกว่า 3.5% 3.มี Upside และฝ่ายวิจัยแนะนำ “ซื้อ”

โดยได้ผลลัพธ์ 7 หุ้นกลาง-เล็ก ปันผลสูง น่าลงทุน ดังนี้ NOBLE ASK ORI MCS DCC RJH และ JMART โดยมีอัปไซด์ 14.1% 34.4% 18.3% 48.9% 33.6% 21.2% และ 8.4% ตามลำดับ และมีราคาเหมาะสมที่ 22.70 บาท 25 บาท 8.10 บาท 19.50 บาท 3.10 บาท 26.90 บาท และ 18 บาท ตามลำดับ


กำลังโหลดความคิดเห็น