วายแอลจี เผยราคาทองปรับลดลงหลุด 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่น่ากังวล แม้ระยะสั้นจะมีโอกาสลงต่อ แต่ภาพใหญ่ยังดูดี ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น เหตุเศรษฐกิจโลกยังทรุดกดดอกเบี้ยต่ำยาว ชี้หากดอกเบี้ยยังไม่ขยับขึ้นทองก็ยังไปได้ต่อ พร้อมแนะหาจังหวะซื้อสะสม ประเมินแนวรับ 1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน) แนวต้าน 1,876-1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์
น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเดือนกันยายน ที่มีลักษณะแกว่งตัวลงหลุด 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์นั้น มองว่าระยะสั้นจะยังมีโอกาสปรับลดลงได้อีก แต่ระยะยาวมองว่ายังเป็นขาขึ้นเช่นเดิม เพราะปัจจัยบวกทั้งด้านภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัวจาก COVID-19 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกหลายปีข้างหน้า อีกทั้งประเด็นความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนให้แก่นักลงทุน และเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นในระยะยาว
สำหรับการปรับตัวลงของราคาทองในช่วงนี้ ปัจจัยหลักมาจากการที่นักลงทุนโยกเงินลงทุนเข้าสู่ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม มองว่าระยะยาวทองคำยังมีโอกาสไปต่อ เพราะสถานการณ์ COVID-19 ยังน่ากังวล ซึ่งจะเป็นตัวแปรที่ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินในเชิงผ่อนคลายต่อไป ท้ายที่สุดแล้วประเมินว่าทองคำยังคงน่าดึงดูด และแม้ว่าราคาทองจะปรับลดลงในระยะสั้น แต่ในระยะยาวหากดอกเบี้ยยังไม่ปรับขึ้นมองว่าราคาทองคำจะยังเป็นขาขึ้น ดังนั้น แม้ช่วงนี้ราคาทองจะแกว่งตัวลงแต่ YLG ยังแนะนำให้หาจังหวะทยอยเข้าซื้อตามแนวรับ โดยมองแนวรับที่1,847 1,831 และ 1,816 ตามลำดับ ขณะที่แนวต้านประเมินไว้บริเวณ 1,876 1,890 และ 1,906 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ทุกภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจาก COVID-19 วายแอลจีได้มีการปรับกลยุทธ์การตลาดไปสู่ด้านออนไลน์มากขึ้น โดยจะต้องให้ทุกบริการสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าผ่านช่องทางสมาร์ทโฟนได้ ทั้งการลงทุนทองคำออนไลน์ การลงทุนในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า รวมถึงการซื้อทองคำออนไลน์ และการออมทองเริ่มต้นเพียง 10 บาท ก็สามารถเข้าถึงได้ผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งถือเป็นการปรับรูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ปัจจุบันธุรกรรมต่างๆ ของลูกค้าประมาณ 80% มาจากช่องทางของสมาร์ทโฟน
นอกจากนี้ YLG ยังได้ปรับลดการวางหลักประกันสำหรับการลงทุนในทองคำแท่ง โดยลดเหลือ 70,000 บาท จากเดิม 100,000 บาท ซึ่งสามารถลงทุนในทองคำแท่ง 99.99% ได้หนัก 1 กก. หรือสามารถลงทุนในทองคำ 96.5% ได้จำนวน 60 บาท เพื่อเป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้แก่นักลงทุน
โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาลงทุนมากขึ้น เพราะส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้รายได้ลดลง การลงทุนในทองคำจึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ทาง www.ylgbullion.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2687-9888 และผ่านทางเพจเฟสบุ๊กของบริษัท https://www.facebook.com/YLGGroup