นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร. ได้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 2563 ของรัฐวิสาหกิจ 44 แห่ง ที่ สคร. กำกับดูแล โดย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2563 มีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม จำนวน 143,973 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 84 ของแผนการเบิกจ่ายสะสม โดยรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่และสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง
ผลการเบิกจ่ายสะสมของรัฐวิสาหกิจ ปี 2563 ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2563
รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายจริงสะสม
(ล้านบาท)ร้อยละเบิกจ่ายจริงสะสม/
แผนเบิกจ่ายสะสม
ปีงบประมาณ (ต.ค.62-ก.ย.63)
จำนวน 34 แห่ง 78,65472%
ปีปฏิทิน (ม.ค.63-ธ.ค.63)
จำนวน 10 แห่ง65,319103%
รวม 44 แห่ง143,97384%
น.ส.ปิยวรรณ ล่ามกิจจา รองผู้อำนวยการ สคร. รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ 44 แห่ง แบ่งเป็นการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 34 แห่ง จำนวน 78,654 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 72 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 10 เดือน (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562-กรกฎาคม 2563) และการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 10 แห่ง จำนวน 65,319 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 103 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 7 เดือน (ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2563) โดยมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สามารถเบิกจ่ายได้เกินกว่าเป้าหมาย เช่น โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าภาคใต้ตอนล่างและภาคตะวันตกของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคต ของ รฟม. สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมายยังคงเป็นโครงการที่ล่าช้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตกของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวสรุปว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่จากผลกระทบของโรค COVID-19 ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงครึ่งปีแรกชะลอตัว ซึ่งการลงทุนของภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่องจะช่วยสนับสนุนให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ ดังนั้น สคร. จะกำกับดูแลให้รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย