บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบดัชนีที่ระดับ 1,270-1,330 จุด หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้มีการจ้างงานนิสิต นักศึกษา ผู้จบการศึกษาใหม่ ปวช. และ ปวส. จำนวน 2.6 แสนตำแหน่ง พร้อมทั้งเห็นชอบโครงการ Gastronomy tourism หรือการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมล้านนา วงเงิน 48 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ จากปัจจัยดังกล่าวทางฝ่ายวิจัยมองว่าสามารถช่วยเยียวยาเศรษฐกิจภาพรวมได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ยังแนะให้เฝ้าจับตาการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ (9 ก.ย.63)
ส่วนปัจจัยต่างประเทศนั้น ฝ่ายวิจัยมองว่าสหรัฐฯเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวก โดยเห็นได้จากกรณีที่สหรัฐฯ เผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่ม 1.4 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.255 ล้านตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานลดลงมาแตะ 8.4% ในเดือน ส.ค. ส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัวในปีหน้า และคาดว่าจะมีการอนุมัติวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเดือน ต.ค.นี้ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน พ.ย.
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัว Sideway ขาลงแม้มีแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" เพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนยังวิตกกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของประเทศเพื่อนบ้านว่า จะมีการลักลอบเข้าไทย และอาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดระลอก 2 รวมทั้งความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่อาจกลับมาอีกหลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่าเขาจะลดระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน และขู่ว่าจะใช้มาตรการลงโทษบริษัทของสหรัฐฯ ที่ไปสร้างงานในต่างประเทศ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ทางฝ่ายวิจัย แนะนำลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการเพิ่มการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ ได้แก่ CPALL MAKRO TNP CPN CRC ERW CENTEL และ MINT รวมทั้งเก็บหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกระแสข่าวเตรียมออกขาย iPhone 12 ในเดือน ต.ค.นี้ ได้แก่ COM7 SPVI CPW SYNEX และ JMART
ส่วนภาพรวมของการลงทุนในทองคำนั้น นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า จากความผันผวนของราคาทองคำ ฝ่ายวิจัยแนะนำให้หาจังหวะขายเมื่อราคาปรับตัวขึ้น เนื่องจากทองคำปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อมีข่าวลบทำให้เรามีความกังวลเพิ่มขึ้นถึงการจบรอบ จึงแนะนำให้ลดสถานะและขายเมื่อราคาปรับตัวขึ้น คาดกรอบราคาทองคำในสัปดาห์นี้ 1,900-1,950 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าราคาทองคำโลกในเดือน ส.ค.ปรับตัวลง 7.50 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยระหว่างเดือนปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 2,074 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากสหรัฐฯ ใกล้จะบรรลุข้อตกลงมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจครั้งใหม่ ซึ่งมีวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เน้นช่วยเหลือเด็กๆ ให้กลับมาเรียนในโรงเรียนอีกครั้ง และช่วยเหลือพนักงานกลับมาทำงาน อีกทั้งปกป้องบริษัทเอกชนไม่ให้ถูกฟ้องร้องทางกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สิน
แต่ก็ถูกขายทำกำไรกว่า 130 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ในวันเดียว หลังผู้นำรัสเซียประกาศว่ารัสเซียเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งวัคซีนนี้ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบแล้ว นอกจากนี้ผลการประชุมเฟดที่แจ็กสัน โฮลเปลี่ยนจากการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อตายตัวที่ 2% เป็นเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่นโดยไม่มีการกล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมทำให้นักลงทุนผิดหวังและเทขายทำกำไรทองคำเพิ่มเติม