xs
xsm
sm
md
lg

"ประยุทธ์" ถกเอกชนทำ workshop อสังหาฯ วอนให้แบงก์ปล่อยสินเชื่อ ค้าปลีกแนะปัดฝุ่น "ช้อปช่วยชาติ"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประยุทธ์ นำทัพร่วมถกกับภาคเอกชน ทั้งภาคธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ เปิดแผนข้อเสนอ อสังหาฯ แนะเข็นมาตรการกระตุ้นการบริโภคของผู้บริโภคภายในประเทศ ทั้งในส่วนการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่อาศัย การซื้อเพื่อการลงทุน และลงทุนบ้านให้เช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย ทั้งมาตรการของภาครัฐในเรื่องของภาษี ขณะที่ธุรกิจค้าปลีก ชงให้ไทยเป็น “สุดยอดการใช้ชีวิตแห่งเอเชีย” แก้ปัญหาเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ลดภาษีนำเข้าชั่วคราวเป็นเวลา 4 เดือน เช่น จาก 30% เหลือ 10%

วานนี้ (3 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จัดประชุม workshop กับภาคธุรกิจต่างๆ ตามแนวทาง “รวมไทยสร้างชาติ” ที่ต้องการเปิดโอกาสให้คนที่เก่งที่สุดจากทุกภาคส่วน และจากทุกระดับของสังคม ได้ใช้ความรู้ความสามารถทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนประเทศ โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เข้าร่วมรับฟัง

“มากกว่าการก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั้งโลกไปให้ได้ ผมคิดว่า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งที่เราควรจะมองไปในอนาคตที่ไกลกว่านั้น และเราควรจะใช้ช่วงเวลานี้ให้เป็นโอกาสที่จะนำพาประเทศไทยให้ไปอยู่ในจุดที่ดียิ่งขึ้น นั่นคือเหตุผลที่ผมเชิญทุกท่านมาในวันนี้ เพื่อแบ่งปันมุมมอง ความคิด ในฐานะที่เป็นบุคคลที่สุดยอดในภาคธุรกิจนี้ มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ตรงมายาวนานผมอยากทราบว่า ท่านมีมุมมองหรือความคิดในการขับเคลื่อนภาคส่วนของท่านอย่างไร โอกาสของภาคธุรกิจของท่านเป็นอย่างไร อนาคต 3 ปีข้างหน้าภาคธุรกิจของท่านควรจะไปอยู่ที่จุดไหน อุปสรรคคืออะไร เป้าหมายของผม คือ ผมต้องการเข้าใจประเด็นหลักๆ และเข้าใจโดยลึกจากการฟังตรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก เมื่อเวลาผมพิจารณานโยบาย หรือโครงการที่หน่วยงานต่างๆ นำเสนอ ผมจะสามารถตัดสินใจไปในแนวทางที่จะสนับสนุนวิสัยทัศน์ของพวกท่านได้” นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการประชุมสั้นๆ

ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2563 จัดประชุมกับ3 ภาคธุรกิจ ได้แก่
• 09.30-11.30 น.ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
• 13.00-15.00 น.ภาคธุรกิจค้าปลีก
• 15.30-17.30 น.ภาคธุรกิจ E-commerce และโลจิสติกส์


การประชุมกลุ่มแรกเป็นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประกอบไปด้วย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน คุณอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัดคุณสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (JLL) ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหารบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) คุณทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) คุณแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โกลเด้นแลนด์เรสซิเดนซ์ จำกัดคุณสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และคณะ

การประชุมกลุ่ม 2 เป็นภาคธุรกิจค้าปลีก ซึ่งประกอบไปด้วย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย นำโดย คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธาน สมาคมฯ/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธานสมาคมฯ/ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดูโฮม จำกัด คุณอัญชนา วิทยาธรรมธัช รองประธานสมาคมฯ/ที่ปรึกษา บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) คุณสมพงษ์ รุ่งนิรัตติศัย กรรมการสมาคมฯ/ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด คุณลักษณ์ ถิฐาพันธ์ กรรมการสมาคมฯ/รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) คุณจักกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด สมาคมศูนย์การค้าไทย นำโดย คุณนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย/ประธานกรรมการบริหาร บมจ.สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ คุณวัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ เซ็นทรัลพัฒนา คุณเสาวนีย์ จรัสเรืองชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา คุณนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด คุณศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด สมาคมการค้าปลีกและเอสเอ็มอีทุนไทย นำโดย คุณสุวิทย์ กิ่งแก้ว นายกสมาคมฯ คุณบัญญัติ คำนูญวัฒน กรรมการสมาคมฯ คุณเกริยงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ กรรมการสมาคมฯ และกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด นำโดยคุณชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานส่งเสริมการตลาด

การประชุมกลุ่มที่ 3 เป็นภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ ซึ่งประกอบไปด้วย สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย นำโดยคุณธนาวัฒน์ มาลาบุปผา นายกสมาคมฯ/CEO Priceza คุณวรวุฒิ สายบัว เลขาธิการสมาคมฯ/CEO Beaitynista คุณณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข กรรมการบริหารสมาคมฯ/CEO LnwShop ดร.อธิปก ไพรเกษตร กรรมการบริหารสมาคมฯ คุณพิมพ์ฐดา สหัชอติเรกลาภ กรรมการบริหารสมาคมฯ/CEO SiamOutlet สมาคมโฆษณาดิจิทัลไทย นำโดยคุณศิวัตร เชาวรียวงษ์ นายกสมาคมฯ/ประธานกรรมการบริหาร กรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย คุณภารุจ ดาวราย อุปนายก สมาคมฯ คุณนรินทร์ เย็นธนกรณ์ กรรมการ สมาคมฯ ฝ่ายมาตรฐานอุตสาหกรรม คุณชาญชัย พงศนันทน์ กรรมการสมาคมฯ ฝ่ายวิชาการ คุณอนันฑ์ ตีระบูรณะพงษ์ กรรมการ สมาคมฯ ฝ่ายวิชาการและกูรูในวงการ ได้แก่ คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ CEO และผู้ก่อตั้ง TARAD.COM และคุณผรินทร์ สงฆ์ประชา CEO และผู้ก่อตั้ง NASKAT นอกจากนั้น ยังประกอบด้วย สมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย นำโดยคุณวัลภา สถิรชวาล ประธานสมาพันธ์ฯ คุณสายัณห์ จันทร์วิภาสวงศ์ ที่ปรึกษาสมาพันธ์ฯ  คุณเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ที่ปรึกษาสมาพันธ์ฯ ดร.ชุมพล สายเชื้อ นายกสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย คุณปิยะนุช สัมฤทธิ์ รองนายกสมาคมฯ/รองนายกสมาคมธุรกิจคลังสินค้าไซโลและห้องเย็น สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย นำโดย คุณสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ฯ คุณวิฑูรย์ สันติบุญยรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์ฯ ดร.ธเนศ โสรัตน์ รองประธานสมาพันธ์ฯ คุณนิธิธร สุขมนัส รองประธานสมาพันธ์ฯ คุณนวลศรี ว่องไวทยกรกุล รองประธานสมาพันธ์ฯ


อสังหาฯ วอนผ่านนายกฯ อยากให้แบงก์ 'ปล่อยสินเชื่อ'

สำหรับในส่วนของข้อเสนอจากภาคอสังหาฯ มีการนำเสนอให้มีการออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคของผู้บริโภคภายในประเทศ ทั้งในส่วนการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่อาศัย การซื้อเพื่อการลงทุน และลงทุนบ้านให้เช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย ทั้งมาตรการของภาครัฐในเรื่องของภาษี และมาตรการของภาคการเงินในเรื่องการเข้าถึงสินเชื่อ และอัตราดอกเบี้ย โดยมองว่า นอกเหนือจากการออกมาตรการทางการเงินที่ช่วยผู้บริโภคแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ควรหาวิธีการจูงใจธนาคารต่างๆ ให้มีความต้องการ “อยากปล่อยสินเชื่อ” เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ และสามารถเข้าถึงเงินกู้ได้

นอกจากนั้น ที่ควรให้ความสำคัญอีกหนึ่งมิติ ในฐานะที่ประเทศไทยมีศักยภาพอย่างมากในการเป็นบ้านหลังที่สองของคนทั่วโลก และมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคด้วยปัจจัยบวกหลายๆ ด้าน ซึ่งหากผลักดันได้สำเร็จจะส่งผลประโยชน์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนของแรงงานต่างชาติระดับผู้บริหาร หรือผู้มีทักษะสูง เพิ่มการจ้างงาน เพิ่มรายได้ กำลังซื้อภายในประเทศ และเป็นผลต่อเนื่องต่อภาคธุรกิจต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นค้าปลีก การค้า โรงแรม ท่องเที่ยว โลจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์ 

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นภาคธุรกิจที่อิงกับความเชื่อมั่นของประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้น ภาครัฐต้องเน้นการสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อความมั่นคงในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพของตัวเอง สิ่งหนึ่งที่ช่วยได้คือการสื่อสารข้อมูลเรื่องเศรษฐกิจ หรือโครงการสำคัญๆ ที่จะมีผลต่อการทำมาหากินและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ออกไปสู่ประชาชนให้รับทราบ และมองเห็นอนาคตของตัวเอง เพื่อสามารถวางแผนการดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม


“ภาคธุรกิจค้าปลีก” แนะปัดฝุ่น "ช้อปช่วยชาติ"

สำหรับในภาคธุรกิจค้าปลีก เสนอว่า ภาครัฐควรมีนโยบายส่งเสริมประเทศไทยให้เป็น “สุดยอดการใช้ชีวิตแห่งเอเชีย” (Lifestyle hub of Asia) โดยเสนอมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยในส่วนระยะสั้นเพื่อพยุงการจ้างงาน และขับเคลื่อนเอสเอ็มอีให้อยู่รอด เสนอแก้นโยบายค่าแรงขั้นต่ำให้สามารถจ้างแรงงานขั้นต่ำเป็นรายชั่วโมงได้ ซี่งจะนำสู่การจ้างงานเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านอัตรา รวมทั้งออกนโยบายกระตุ้นการใช้จ่าย ด้วยการนำโครงการ “ช้อปช่วยขาติ” ออกมาอีกครั้ง และการกระตุ้นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง โดยลดภาษีนำเข้าชั่วคราวเป็นเวลา 4 เดือน เช่น จาก 30% เหลือ 10%


นอกจากนั้น ยังมีข้อเสนอแนะสำหรับระยะสั้น เพื่อไม่ให้ร้านค้าปิดกิจการ มีการจ้างงานต่อไปและมีเงินหมุนเวียนในระบบรัฐควรปล่อยซอฟต์โลนโดยอนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถนำหลักฐานใบสัญญาเช่ามาใช้พิจารณาปล่อยกู้ได้ ออกโครงการชอปและเที่ยวช่วยชาติ และเยียวยาลดค่าใช้จ่ายศูนย์การค้า เช่น ลดค่าไฟ ภาษีนิติบุคคล ภาษีป้าย ยืดเวลาการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 90% ไปถึงปี 2566 สำหรับแผนระยะกลาง ควรส่งเสริมยกระดับให้ธุรกิจศูนย์การค้าอยู่ในแผนแม่บทของประเทศ เปิดพื้นที่เพิ่มโซนการลงทุนให้ศูนย์การค้า เช่นเดียวกับอีอีซี ส่งเสริม seamless connectivity โดยปรับกฎหมาย ทางเชื่อมอาคาร ลดค่าธรรมเนียมเงื่อนไขเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน ปรับกฎหมายให้สอดคล้องต่อวิถีชีวิตใหม่ เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจศูนย์การค้า 

และแผนระยะยาว ควรผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก เป็นแหล่งชอปปิ้งของนักท่องเที่ยวชั้นนำ เทียบชั้นญี่ปุ่น เกาหลี ยกระดับสินค้าไทยให้แข่งขันได้ พร้อมทยอยลดภาษีนำเข้าให้ราคาสินค้าแข่งขันกับต่างประเทศได้
กำลังโหลดความคิดเห็น