การตลาด – ซีอาร์ซี ระวังลงทุนใหญ่ เหตุโควิด-19 กระทบ เชื่อโค้งท้ายปีสถานการณ์น่าจะดีขึ้น เผยโควิด-19 ดันออมนิแชนแนลและออนไลน์เติบโตพุ่งกว่า 350% พร้อมลุย จัดเต็ม ดับเบิ้ลเมกะเซลล์ ดันเป้าหมายรายได้แคมเปญนี้ 2,000 ล้านบาท
นายนิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือซีอาร์ซี/CRC กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบไปทั่ว ส่งผลให้การดำเนินงานต่างๆ ต้องมีการวางแผนระยะสั้น และปรับแผนกันทุกรายเดือน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เราต้องระมัดระวังการเรื่องการลงทุน
*** ชะลอลงทุนใหญ่ในยุโรป
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในแง่ของการเปิดสาขาใหม่ หรือการลงทุนด้านเทคโนโลยีต่างก็ยังต้องทำต่อไป
แต่ในตลาดต่างประเทศ นายนิโคโล กล่าวว่า ตลาดต่างประเทศหลักๆของเรามี 2 ที่คือ ยุโรป และเวียดนาม ซึ่งในเวียดนาม ยังลงทุนเหมือนเดิม เพราะสถานการณ์ โควิด-19 ไม่ร้ายแรงเท่าไร ขณะที่ในยุโรปคือ อิตาลีนัน สถานการณ์โควิด-19 มีความรุนแรงอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ คงต้องยอมรับและคงต้องชะลอการลงทุนโครงการอะไรที่ใหญ่ๆออกไปก่อน แต่ยังคงเน้นเรื่องการปรับปรุงสาขาเดิมๆให้มีความทันสมัยมากขึ้น
ขณะที่ ซีอาร์ซี ได้รายงานงบการเงินครึ่งปีแรกของปี 2563 พบว่า รายได้ลดลงอย่างหนัก จากสถานการณ์โควิด-19
*** ครึ่งปีแรก ขาดทุน จากโควิด-19
โดยนายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า ผลประกอบการบริษัทฯ ครึ่งแรกของปี 63 ปรับตัวลดลงอย่างมาก เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทางรัฐบาลได้ออกมาตรการล็อกดาวน์และการประกาศเคอร์ฟิวในช่วงไตรมาสที่ 2 ตลอดจนปัจจัยลบต่างๆ ที่เข้ามากระทบ และการหดตัวของภาคท่องเที่ยว ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวลง
ส่งผลให้ รายได้รวมช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 อยู่ที่ 95,661 ล้านบาท ลดลง 10 % และขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 1,629 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 41,376 ล้านบาท ลดลง 2% และขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 2,519 ล้านบาท ลดลง 243% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
"จากวิกฤตโควิด-19 ธุรกิจในเครือต้องปิดตัวลงกว่า 80% ของพื้นที่ขายทั้งหมด เป็นระยะเวลามากกว่าครึ่งของไตรมาส 2 หรือประมาณ 46 วัน จากทั้งหมด 91 วัน หากเทียบแล้วในช่วงเวลาแห่งความท้าทายดังกล่าว ขณะที่ยอดขายของบริษัทลดลงกว่า 50%" นายญนน์ กล่าว
ทว่า จากนี้ไป นายนิโคโล กล่าวให้ความเห็นว่า หลังจากที่ภาครัฐได้มีการปลดล็อกมาตรการลงส่งผลให้การดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้นและคาดว่าในไตรมาสที่3ผลประกอบการน่าจะดีขึ้น และในไตรมาสที่4ก็น่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มดีขึ้นบ้าง ประกอบกับมาตรการต่างๆที่ภาครัฐนำออกมาใช้ก็น่าจะควบคุมการระบาดของโควิด-19ได้
*** ออมนิแชนแนล และอี-คอมเมิร์ซโตพุ่ง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 อย่างหนักในช่วงครึ่งปีแรกในมุมบวกก็ยังมีผลดีต่อธุรกิจทางด้านอี-คอมเมิร์ซ หรือออนไลน์ อย่างเต็มที่ ซึ่งพบว่า ธุรกิจในกลุ่มของอาหารหรือฟู้ดของเครือเซ็นทรัล เติบโตสูงมาก ส่วนกลุ่มนอนฟู้ดหรือไม่ใช่อาหาร ก็เติบโตดีเช่นกันมากกว่า 2-3 เท่า แต่ทั้งหมดนี้เติบโตในช่องทางออมนิแชนแนลและออนไลน์เป็นหลัก
ก่อนหน้านี้ซีอาร์ซี ได้ทยอยพัฒนาช่องทางออมนิแชนแนลไว้หลากหลายเพื่อรองรับกับการขยายตัวและการเติบโตสู่ช่องทางออนไลน์ และยังเต็มที่มากขึ้นเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่จะเป็นตัวเร่งให้อี-คอมเมิร์ซหรือออนไลน์นี้เติบโตมากขี้น
ทั้งนี้ช่องทางออมนิแชนแนล ได้สร้างอัตราการเติบโตของยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกให้กับซีอาร์ซี มากถึง 350% ประกอบไปด้วย หน้าร้านค้า, ออนไลน์, คอลล์แอนด์ช้อป, แชทแอนด์ช้อป, เฟซบุ๊คไลฟ์,ไลน์, คลิกแอนด์คอลเล็ค, อี-ออเดอร์ และมาร์เก็ตเพลซ จากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการขช่องทางออนไลน์มากกว่าเกือบ 1 ล้านคน และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มมากเป็น 3 ล้านคน
นายนิโคโล กล่าวว่า ปัจจุบันยอดขายจากช่องทางอี-คอมเมิร์ซหรือออนไลน์ของกลุ่มซีอาร์ซี แต่ละกลุ่มสินค้ามีการเติบโตอย่างดีในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เช่น กลุ่มสินค้าลักซ์ชัวรี่ เติบโต 0.5%, กลุ่มสินค้าแฟชั่น เติบโต 21.1%, กลุ่มสินค้าดีไอวาย เติบโต 6.9% , กลุ่มสินค้าเพชรและนาฬิกา เติบโต 11.6%, กลุ่มเครื่องสำอาง เติบโต 13.2%, กลุ่มรีเทลเทค เติบโต 27.8%, กลุ่มสินค้ากีฬา เติบโต 34.2% และกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต เติบโต 35.3%
ทั้งนี้เป้าหมายเดิมตั้งไว้ว่า ซีอาร์ซีจะมีสัดส่วนยอดขายจากช่องทางออนไลน์ ประมาณ 10-15% ภายใน 3-5 ปี แต่ว่าขณะนี้ทำได้มากถึง 10% แล้วซึ่งเร็วกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างมาก เพราะส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากสถานการรณ์ โควิด-19 ด้วย
*** ซีอาร์ซี จัดเต็ม ดับเบิ้ลเมกะเซลล์
นายนิโคโล กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการก้าวเข้าสู่ยุคอี-คอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว การใช้จ่ายทางช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคไทย มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างมากและทั่วถึงในกลุ่มลูกค้าทุกเจเนเรชั่น
“จากสถานการณ์หกเดือนที่ผ่านมา ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันหันมาช้อปออนไลน์อย่างถล่มทลาย ทำให้มียอดการเข้าซื้อสินค้าทางเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชในเครือเซ็นทรัล รีเทล เติบโตมากยิ่งขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าของใช้จำเป็น, อุปกรณ์กีฬา, เครื่องสำอาง, สินค้าแฟชั่น, ของตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า แพลตฟอร์มดิจิทัลที่หลากหลายช่องทางของเราสร้างยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 350% ในไตรมาสที่สองของปี 2563 (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน) แคมเปญลดราคาส่งท้ายปี Central Retail Double Mega Sale ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนถึงธันวาคมนี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงสี่เดือนสุดท้ายของปีให้กลับมาฟื้นฟู และช่วยให้ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้เลือกช้อปสินค้าคุณภาพสำหรับทุกคนในครอบครัวในราคาสุดคุ้มค่า พร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุด และบริการที่ตรงใจ
โดยเริ่มคิกออฟที่เดือนกันยายนด้วยแคมเปญ Central Retail 9.9 Double Mega Sale #ลดไม่เลือกหน้า ทั้งหน้าร้านและหน้าเว็บ ลดสูงสุด 90% รวมสินค้ากว่า 1,000,000 รายการ จากร้านค้ามากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศในเครือเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล ด้วยการเชื่อมต่อประสบการณ์ช้อปปิ้ง ให้ลูกค้าได้คุ้มค่าแบบดับเบิ้ล เช่น การใช้ส่วนลดจากใบเสร็จหน้าร้าน ไปใช้ลดต่อที่หน้าเว็บไซต์ รวมถึงการสั่งซื้อด้วยบริการ Click & Collect (บริการคลิกสั่งซื้อหน้าเว็บ แล้วไปรับที่หน้าร้าน) จะได้รับคูปองส่วนลดเพิ่มคูณสอง โดยสินค้าทุกรายการการันตีของแท้ 100% เพราะจุดประสงค์หลักของแคมเปญนี้ คือการที่เราอยากส่งมอบสินค้าและบริการที่ดี ในราคาที่ย่อมเยาให้ลูกค้าของเราได้เลือกซื้อกันอย่างมีความสุข”
“สำหรับแคมเปญนี้ เราได้ ป๊อก-ภัสสรกรณ์ และมาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์ มาเป็นแคมเปญแอมบาสเดอร์ เพราะเป็นตัวแทนของครอบครัวรุ่นใหม่ ซึ่งมองหาแพลตฟอร์มการซื้อสินค้าที่หลากหลาย สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของยุคปัจจุบัน ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และเชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเลือกซื้อสินค้าที่ร้านค้าหรือช้อปผ่านออนไลน์ก็ตาม ดังนั้นจึงสามารถสะท้อนถึงบริการออมนิชาแนลที่ครบวงจรของบริษัทได้เป็นอย่างดี” นิโคโล เผย
แคมเปญ Central Retail Double Mega Sale ประกอบไปด้วยโปรโมชั่นในแต่ละเดือน โดยเริ่มจาก 9.9, 10.10, 11.11, และ12.12 ลดจัดหนักแบบดับเบิ้ล ๆ ผสานบริการต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สมบูรณ์แบบตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและไร้รอยต่อ ด้วย Dual Platform จากร้านค้าในอาณาจักรเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, โรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, ซีเอ็มจี (สาขาที่ร่วมรายการ), ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์ และบีทูเอส ผ่านบริการ Call & Shop, Chat & Shop ที่ LINE Official Account หรือ LINE ของสาขา (LINE Store), Facebook Live, Click & Collect, E-ordering หรือช้อปผ่านเว็บไซต์ได้ทุกที่ทุกเวลา 24 ชั่วโมง พร้อมบริการสุดพิเศษต่าง ๆ ทั้ง Free Delivery และรับ/คืนสินค้าได้ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการมากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังเสริมแกร่งความคุ้มค่าด้วยการผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล นำโดยศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนาทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต, และเซ็นทรัลวิลเลจ รวมทั้งกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ที่พร้อมใจกันมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษให้แก่ลูกค้า ดังนี้
• เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป: เอาใจคนชอบกิน ด้วยโปรโมชั่นอิ่มคุ้มราคาเดียว 99 บาท จากร้านแบรนด์ดังมากกว่า 500 สาขา ได้แก่ Mister Donut, Pepper Lunch, Chabuton Ramen, Thai Terrace, Ootoya และอร่อยดี เริ่มแจกคูปอง วันที่ 7-9 กันยายน และใช้คูปองได้ตั้งแต่วันที่ 9 - 13 กันยายน 2563 นี้
• เซ็นทารา: ขนโรงแรมทุกแห่งในเครือเซ็นทารา ประเทศไทยมาลดกระหน่ำค่าห้องพัก เริ่มต้นที่ 960 บาทต่อคืน พร้อมข้อเสนอพิเศษแบบดับเบิ้ล เมื่อพักครบ 4 คืนขึ้นไป รับฟรีอาหารเช้า และอาหารเย็น ตลอดระยะเวลาเข้าพัก โดยสามารถจองห้องพักได้ตั้งแต่วันนี้ และใช้ได้ถึงเดือนมีนาคม 2564 นอกจากนี้ยังมีคูปองเงินสดที่จำหน่ายในราคา 1,000 บาท แต่ใช้เป็นส่วนลดค่าห้องพักที่โรงแรมในเครือเซ็นทาราได้ถึง 1,250 บาท โดยซื้อคูปองได้ตั้งแต่วันที่ 8 - 10 กันยายน และใช้คูปองได้ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน – 31 มกราคม 2564
• The 1: มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิก แลกคะแนน The 1 เพียง 99 คะแนน รับส่วนลดช้อปต่อ 100 บาท (แลกคะแนนผ่านแอปพลิเคชัน The 1 ตั้งแต่วันที่ 7-9 กันยายน สามารถใช้ส่วนลดได้วันที่ 9 กันยายนเท่านั้น)
• บัตรเครดิตเซ็นทรัล The 1: มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรครบ 990 บาทขึ้นไป ที่หน้าร้านและหน้าเว็บที่ร่วมรายการ รับคะแนน The 1 ถึง 990 คะแนน เฉพาะวันที่ 9 กันยายนนี้เท่านั้น
• ดอลฟิน วอลเล็ท: ชวนลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การใช้จ่าย รูปแบบใหม่ไร้เงินสด พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่จ่ายด้วย ดอลฟิน วอลเล็ททุก ๆ 500 บาท รับคะแนน The 1 เพิ่ม 99 คะแนน สูงสุด 990 คะแนน และลูกค้าที่ผูกบัตรเครดิตเซ็นทรัลเดอะวัน สะสมได้เพิ่มอีกสูงสุดถึง 5 เท่า พร้อมมอบคูปองส่วนลด ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, โรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, ซีเอ็มจี (สาขาที่ร่วมรายการ), บีทูเอส, ไทวัสดุ และบ้านแอนด์บียอนด์ ตั้งแต่วันที่ 9-13 กันยายนนี้
สามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับแคมเปญ Central Retail 9.9 Double Mega Sale ของเซ็นทรัล รีเทล ได้ทางเว็บไซต์ www.centralretail.com/99DoubleMegaSale และที่หน้าร้านของร้านค้าในอาณาจักรเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัลที่ร่วมรายการได้ตั้งแต่ 1-13 กันยายน 2563
โดยวางเป้าหมายยอดขายรวมของมหกรรมช้อปป้งนี้ ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท