ที.เค.เอส.เทคโนโลยี คาดแนวโน้มธุรกิจ Security Printing ครึ่งปีหลังฟื้นตัวดีกว่าครึ่งปีแรก หลังประกาศผลงานงวดไตรมาส 2 ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้มีรายได้ 446.50 ลบ. กำไรสุทธิ 39.10 ลบ. เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด 0.06 บาท/หุ้น
นายจุติพันธุ์ มงคลสุธี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เปิดเผยถึงแนวโน้มผลดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 คาดว่าจะมีทิศทางดีกว่าครึ่งปีแรก หลังภาครัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้น การกลับมาเร่งผลงานของภาคธุรกิจต่างๆ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่งผลให้คำสั่งซื้อของบริษัทฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก โดยในไตรมาส 3/2563 บริษัทฯ ได้งานพิมพ์แสตมป์ของผู้ประกอบการร้านค้าปลีก รวมถึงงานประเภทอื่นๆ เข้ามาเสริมแกร่งรายได้ให้เพิ่มขึ้น ประกอบกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จะสนับสนุนให้ภาพรวมในประเทศคึกคักกว่าเดิม
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2563 (1 เมษายน -30 มิถุนายน 2563) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 446.50 ล้านบาท ลดลง 146 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 24.6 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 592.50 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 39.1 ล้านบาท ลดลง 126.20 ล้านบาท หรือร้อยละ 76.4 โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานลดลง เนื่องจากการลดลงของกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในไตรมาส 2/2563 และเป็นผลมาจากยอดขายสินค้าในกลุ่มธนาคารและการส่งออกลดลง จากผลกระทบของสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มธนาคารและการส่งออกชะลอโครงการ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวเริ่มคลี่คลายลงในช่วงปลายไตรมาส 2/2563 ที่ผ่านมา ประกอบกับบริษัทฯ ได้ทำการปรับโครงสร้างกิจการของกลุ่มบริษัท โดยโอนกิจการทั้งหมด ซึ่งได้แก่ ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ของบริษัท ที.เค.เอส. สยามแมเนจเม้นท์ จำกัดผ่านบริษัท เซอร์วิส ฮอลล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ให้แก่ บริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน) หรือ TBSP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TKS ถือหุ้นร้อยละ 97.17 โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ ของบริษัท TBSP จำนวน 94.22 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท มีราคาเสนอซื้อหุ้นละ 13.80 บาท ทั้งนี้ เพื่อมุ่งหวังให้การปรับโครงสร้างช่วยให้การบริหารงานในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ของบริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ผลกระทบจากโควิด-19 เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก และคาดว่าธุรกิจจะฟื้นตัวกลับมาครึ่งปีหลัง แม้ว่าภาพรวมทั้งปี รายได้อาจจะไม่กลับมาเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ แต่เชื่อว่าผลจากการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ ทำให้เกิด cost saving และเกิดการประหยัดต้นทุนอย่างยั่งยืน สนับสนุนผลการดำเนินงานและความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่เคยคาดการณ์ไว้ และผลงานจะกลับมาดีต่อเนื่องในอนาคต” นายจุติพันธุ์ กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือนแรกประจำปี 2563 เพื่อจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 27.73 ล้านบาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 27 สิงหาคม 2563 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 กันยายน 2563