น.ส.วิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 เห็นชอบในหลักการของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) โดยได้กำหนดแนวทางการดำเนินการของกรมบัญชีกลางและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้ปรับปรุงกฎระเบียบ เพื่อผลักดันการรับจ่ายเงินระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับภาคเอกชนให้เป็นการรับจ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2559 เห็นชอบในหลักการให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องที่มีการรับเงินจากประชาชน เช่น ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ติดตั้งอุปกรณ์ชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เพียงพอต่อความต้องการให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งกระทรวงการคลังได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการจ่ายเงิน การรับเงิน และการนำส่งเงินส่งคลังหรือฝากคลังของส่วนราชการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ แล้วนั้น
“ปัจจุบัน กระทรวงการคลังได้ยกเลิกระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยได้กำหนดขึ้นใหม่เป็นระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลัง พ.ศ.2562 ซึ่งได้มีการปรับปรุงวิธีปฏิบัติในการรับ-จ่ายเงินของส่วนราชการ ให้สอดคล้องต่อมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น โดยกำหนดให้การจ่ายเงิน การรับเงิน และการนำเงิน ส่งคลังของส่วนราชการต้องดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติที่กระทรวงการคลังกำหนด ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามนัยระเบียบกระทรวงการคลังข้างต้น โดยนำเครื่องมือของธนาคารมาใช้ในการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลัง ได้แก่ ระบบอินเทอร์เน็ต แบงกิ้ง ของธนาคารกรุงไทย (มหาชน) หรือระบบ KTB Corporate Online และอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่อง EDC พร้อม QR Code จึงเห็นสมควรยกเลิกหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลัง 5 ฉบับ และกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติขึ้นใหม่” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว
โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการรับ-จ่ายเงินของส่วนราชการในครั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการของส่วนราชการเกิดความสะดวก ลดขั้นตอน เป็นไปในแนวทางเดียวกัน คล่องตัวมากขึ้น และเป็นการนำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังของภาครัฐ อันจะส่งผลให้เกิดความรวดเร็ว ถูกต้องโปร่งใส สามารถตรวจสอบและเรียกรายงานข้อมูลได้ครบถ้วน ทันท่วงที ทั้งนี้ ให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0402.2/ว 140 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2563 โดยสามารถศึกษาแนวทาง หลักเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้องได้ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว