"บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ" เลือกให้ บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND ออกแบบพร้อมก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (T-2306) ณ สถานีบริการจัดเก็บน้ำมันสุวรรณภูมิ มูลค่ารวม 382 ล้านบาท ความจุ 15,000 ลูกบาศก์เมตร คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 64
นายชัยณรงค์ ณ ลำพูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจากบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ให้เป็นผู้ดำเนินโครงการออกแบบพร้อมก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (T-2306) ณ สถานีบริการจัดเก็บน้ำมันสุวรรณภูมิ โดยมีพิธีเซ็นสัญญาร่วมกันแล้ว ณ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำนักงานดอนเมือง เมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับมูลค่าโครงการออกแบบพร้อมก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (T-2306) สถานีบริการจัดเก็บน้ำมันสุวรรณภูมิ อยู่ที่ 382 ล้านบาท โดยระยะเวลาในการออกแบบพร้อมก่อสร้างจะอยู่ที่ 18 เดือน หรือคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2564 หลังจากนั้นจะสามารถส่งน้ำมันเข้าสู่ระบบที่มีอยู่เดิมได้ ซึ่งมีถังน้ำมันอยู่จำนวน 4 ถัง โดยความจุถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (T-2306) ขนาดความจุ 15,000 ลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 15 ล้านลิตร โดยถังจะมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 33 เมตร ความสูงกว่า 20 เมตร โดยพื้นที่ในการก่อสร้างจะอยู่นอกสถานที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 60X60 เมตร
ส่วนขั้นตอนการดำเนินงานปัจจุบัน ในเฟสแรก เป็นการออกแบบพร้อมก่อสร้างจะมีการทบทวนการออกแบบเบื้องต้น เช่น ทบทวนเข็มเจาะดิน หล่อฐานราก โดยคาดว่าจะตอกเสาเข็มแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะดำเนินการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (T-2306) บริษัทต้องนำผ้าคลุมบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อความปลอดภัยในการก่อสร้าง และไม่ให้เกิดประกายไฟระหว่างการก่อสร้าง
ขณะที่การออกแบบโครงการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (T-2306) จะมีการนำเทคโนโลยีพิเศษอื่นนำมาใช้ในการก่อสร้าง โดยเฉพาะเข็มที่ใช้ในการขุดเจาะดิน โดยบริษัทได้เลือก บริษัท ปทุมธานีคอนกรีต จำกัด หรือพาโก้ เป็นผู้ดำเนินการตอกเสาเข็มด้วยเข็มขุดเจาะแบบพิเศษที่มีความปลอดภัย ลดการสั่นสะเทือน และไม่ทำให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ “BAFS” เลือกบริษัทให้ออกแบบพร้อมก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (T-2306) เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและควบคุมงาน การให้บริการในงานด้านวิศวกรรมทุกสาขา ที่ครอบคลุมการดำเนินงาน ทุกส่วนอย่างครบวงจร สมบูรณ์ รวมถึงการตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลในด้านต่างๆ ทั้งนี้ เชื่อว่าหลังจากทำโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ อาจมีโครงการที่สามารถต่อยอดทำร่วมกันในอนาคตได้
“บริษัทต้องขอขอบคุณคณะกรรมการบริหาร บริษัท “BAFS” ที่ได้มอบโอกาสและคัดเลือกบริษัทให้เป็นผู้รับจ้างในการดำเนินงานออกแบบพร้อมก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (T-2306) โดยบริษัทจะดำเนินการวางแผนงานการออกแบบพร้อมก่อสร้างโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ รวมถึงจะรักษาคุณภาพ มาตรฐานรูปแบบที่กำหนดไว้ในสัญญาเพื่อให้งานมีคุณภาพที่ดีต่อไป” นายชัยณรงค์ กล่าว