หุ้นไทยปิดร่วง 21.44 จุด รับแรงกดดันข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ และการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นอกจากนี้ Sentiment จากภายนอกประเทศก็ไม่เอื้อด้วย โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ติดลบ สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดตลาดยังมีโอกาสที่จะรีบาวนด์ขึ้นได้
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงค่อนข้างมาก ให้น้ำหนักไปที่ข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศไทยหลังพ้นการกักตัว 14 วัน และยังมีปัจจัยถ่วงจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดเล็กมีมติให้ขยายระยะเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศไทยต่อไปอีก 1 เดือน คือ ตลอดทั้งเดือน ก.ย.63
นอกจากนี้ Sentiment จากภายนอกประเทศก็ไม่เอื้อด้วย โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ติดลบ ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็เคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัว ส่วนดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็บวกเล็กน้อยเท่านั้น
"ต่างประเทศพอมีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 ก็จะกระทบตลาดราว 1-2 วัน ทำให้แย่กว่าตลาดภูมิภาค หลังจากนั้นก็จะกลับมาแกว่งตามภูมิภาค แต่ไทยมีการป้องกันมาดีพอ ไม่น่าจะเป็นอย่างต่างประเทศ แต่ก็ต้องรอติดตามรายละเอียดว่าจะมีการแถลงอย่างไรบ้าง สิ่งที่นักลงทุนกังวลคือ กลัวจะเหมือนเกาหลีใต้ ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าคนติดเชื้อโควิด-19 จะเป็น Super Spreader หรือเปล่า"
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) คืนวันนี้ (19 ส.ค.) และติดตามความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ช่วงนี้คงจะยังไม่มีอะไร สำหรับปัจจัยในประเทศให้น้ำหนักในเรื่องการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศก่อน
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,308.67 จุด ลดลง 21.44 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.61% มูลค่าการซื้อขาย 57,283.62 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯ ยังมีโอกาสที่จะรีบาวนด์ขึ้นได้ พร้อมให้แนวรับ 1,300-1,306 จุด ส่วนแนวต้าน 1,315-1,320 จุด