หุ้นปิดลบ 6.14 จุด เจอแรงขายทำกำไรหลังสิ้นการประกาศงบฯ ขณะที่ GDP หดตัวหนักถ่วง สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ ตลาดคงอยู่ในช่วงของการปรับฐาน อิงกับต่างประเทศ
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง เผชิญแรงขายทำกำไรหลังเสร็จสิ้นการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งภาพรวมผลกำไร -45% yoy และ +23% qoq โดยรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หนัก และอาจจะต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 3/63 ด้วย อีกทั้งอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยงวดไตรมาส 2/63 ของไทยหดตัวหนักถึง -12.2% เป็นปัจจัยถ่วงตลาด
ขณะที่นักลงทุนต่างก็รอติดตามนโยบายเศรษฐกิจใหม่ๆ ของรัฐบาลหลังปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีออกมา จึงเลือก Wait & See ก่อน
ด้านตลาดต่างประเทศต่างก็เป็นลักษณะการแกว่งไซด์เวย์ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวกเล็กน้อยหลังจากที่ไม่มีการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้แกว่งไซด์เวย์ในแดนบวกเล็กน้อย ทั้งนี้ ตลาดต่างประเทศต่างปรับขึ้นไปกันแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ มีแต่ตลาดหุ้นไทยที่ยังไม่ปรับขึ้นมา
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,320.91 จุด ลดลง 6.14 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.46% มูลค่าการซื้อขาย 47,812.94 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (18 ส.ค.) นายมงคล กล่าวว่า ตลาดฯ คงอยู่ในช่วงของการปรับฐานอิงกับต่างประเทศ หากตลาดต่างประเทศไม่บวก ตลาดบ้านเราคงบวกได้ยาก เพราะยังไม่มีปัจจัยหนุน อย่างไรก็ดี ให้ติดตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 19 ส.ค.นี้ และยอดขายตลาดรวมรถยนต์ของไทย รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
พร้อมให้แนวรับ 1,310 จุด ส่วนแนวต้าน 1,330 จุด