“พาณิชย์” เร่งปั้นสตาร์ทอัแนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลก ด้วยการดึงเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำ “เอสซีจี ลาซาด้า สยามพิวรรธน์ ธีระ ฉันทสวัสดิ์” ร่วมมือพัฒนาสินค้า ช่องทางการตลาด หวังเตรียมความพร้อมดีไซเนอร์ไทยพัฒนาสินค้าและสร้างแบรนด์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้จัดกิจกรรมสร้างความร่วมมือพัฒนาสินค้า (Co-brand) ภายใต้โครงการส่งเสริมนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลกปี 2563 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสมรรถนะในด้านการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศของผู้ประกอบการไทยให้สามารถ “ตั้งรับ ปรับตัว และหาโอกาส” ในการเข้าสู่ตลาดโลกด้วยความพร้อม และมีความมั่นใจ ท่ามกลางสถานการณ์ของเศรษฐกิจการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลง และการแข่งขันที่รุนแรง และเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสพัฒนารูปแบบ คุณลักษณะ แบรนด์สินค้าและบริการให้เป็นที่ยอมรับ ขยายโอกาสเจาะตลาดการค้าเพื่อส่งออกทั่วโลกทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งสนับสนุนข้อมูลการค้า องค์ความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ทางการค้าระหว่างประเทศ เพิ่มความมั่นใจในการเจาะตลาดสร้างรายได้ให้แก่ประเทศอย่างยั่งยืน
โดยกิจกรรมนี้ได้นำผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดในโลกยุคดิจิทัล มาให้ความรู้แนะนำเครื่องมือการตลาดใหม่ๆ แก่นักออกแบบ รวมไปถึงการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานพันธมิตรภาคเอกชนมาร่วมสนับสนุนในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ พัฒนาช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการด้วย ยิ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้างโอกาสเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้หลากหลายมากขึ้นทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
น.ส.ประอรนุช ประนุช ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมสร้างความร่วมมือพัฒนาสินค้า (Co-brand) ภายใต้โครงการส่งเสริมนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลก ปี 2563 เพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาความรู้ทางธุรกิจของนักออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียง และหน่วยงานพันธมิตรภาคเอกชน เพื่อผลักดันให้นักออกแบบปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจและแบรนด์ของตนเองให้สอดคล้องต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมากขึ้น โดยมีนักออกแบบที่เคยเข้าร่วมโครงการ Talent Thai & Designers’ Room มาแล้ว จำนวนมากกว่า 60 แบรนด์ เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมช่องทางการตลาดดิจิทัลในครั้งนี้ ซึ่งในปีนี้มีกิจกรรมการเรียนรู้การทำตลาดผ่านสื่อดิจิทัล
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่อเนื่อง ได้แก่ กิจกรรมการสร้างความร่วมมือพัฒนาสินค้า (Co-brand) ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร 4 แนวทาง ประกอบไปด้วย
1.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากวัสดุเหลือใช้จากเครือปูนซีเมนต์ไทย หรือ SCG ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน
2.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับสยามพิวรรธน์ ผ่านช่องทางออฟไลน์สู่ออนไลน์ ตามแนวทางผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง
3.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากวัสดุและภูมิปัญญาจากท้องถิ่นสู่สากล ร่วมกับคุณธีระ ฉันทสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์
4.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับ LAZADA ตามแนวโน้มสินค้าในตลาดออนไลน์ พร้อมกับจัดส่งเสริมการตลาดในรูปแบบการขายสินค้าออนไลน์ร่วมกับ LAZADA เพื่อเป็นการขยายฐานผู้บริโภค และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้าน น.ส.ปารีสา จาตนิลพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาธุรกิจค้าปลีก บริษัทสยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “การร่วมงานกับทางสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า ในโครงการ Designers’ Room และ Talent Thai จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้ทางดีไซเนอร์ได้แสดงสินค้า และเรียนรู้ขั้นตอนการจัดจำหน่ายในศูนย์การค้า โดยดีไซเนอร์ที่ได้ร่วมการ CoBrand กับสยามพิวรรธน์ จะรับประโยชน์จากข้อเสนอแนะและรู้ความต้องการลูกค้าจากทางทีม สามารถนำไปพัฒนาสินค้าและ branding ให้ตรงกับความต้องการของตลาด แต่ยังคงอัตลักษณ์ของทางแบรนด์และโดดเด่นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเตรียมความพร้อมให้ทางดีไซเนอร์ผลิตสินค้าเพื่อจัดจำหน่ายทางช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ที่ทางสยามพิวรรธน์มีสนับสนุน”
นายสยามรัฐ สุทธานุกุล ผู้บริหาร บริษัทผลิตภัณฑ์และวัสดุก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า เอสซีจีให้ความสำคัญต่อแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและได้นำมาปรับใช้ในการดำเนินงานจริงในการรักษาคุณค่าของทรัพยากรโดยใช้ในเกิดประโยชน์สูงสุดและให้เกิดการใช้ทรัพยากรใหม่ให้น้อยที่สุด
“เอสซีจีเปิดรับความร่วมมือใหม่ๆ ทั้งกับสตาร์ทอัป ดีไซเนอร์ และพาร์ตเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ ในการออกแบบ พัฒนาสินค้าและตามแนวคิด Circular economy รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ เพื่อให้สินค้ามีความหลากหลาย ตอบโจทย์ลูกค้าและเทรนด์แฟชั่นรักษ์โลก”
น.ส.นวพร สัตติยา ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการและดูแลความสัมพันธ์ผู้ขาย บริษัทลาซาด้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการนำจุดแข็งของแต่ละ Platform มารวมกัน โดยดีไซเนอร์ก็จะเก่งด้านดีไซน์ การร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองฝ่ายเอา Knowhow มารวมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างตัว Platform E-Commerce ของ Lazada เองมี User เป็นจำนวนมาก ก็จะทำให้ดีไซเนอร์ได้ Traffic ที่ดีขึ้น และเรามีเครื่องมือหลังบ้านให้ทางดีไซเนอร์ทดลองใช้มากมาย เพื่อที่จะไปถึงความสำเร็จร่วมกัน
ด้าน นายธีระ ฉันทสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ กล่าวว่า จะเน้นเรื่องประสบการณ์ในการลงพื้นที่ การช่วยชาวบ้าน อยากปรับความคิดให้ดีไซเนอร์ไทยปัจจุบันที่รู้สึกว่าผ้าไทยเป็นของไกลตัว ให้เขารู้สึกว่าผ้าไทยไม่ได้ใช้ยาก เอามาทำอะไรได้หลายอย่าง ต่อยอดได้เยอะ อยากเชิญชวนให้ทุกคนมาใช้ผ้าทอของไทย ดีกว่าไปใช้วัตถุดิบจากต่างประเทศ