ทีเอ็มบี เผยสินเชื่อปีนี้พยุงได้แค่ทรงตัวหรืออาจติดลบ เหตุสถานการณ์ไม่เอื้อ พร้อมกันสำรองเพิ่มรับเอ็นพีแอลแตะ 3% ในสิ้นปีหลังหมดโครงการพักหนี้ ยันเงินกองทุนยังแข็งแกร่ง ไม่มีแผนเพิ่มทุนในช่วง 2 ปีนี้
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (ทีเอ็มบี) เปิดเผยว่า สินเชื่อของธนาคารในปีนี้คาดว่าจะทรงตัวหรือมีแนวโน้มที่จะติดลบได้ เนื่องจากสถานการณ์โดยรวมไม่เอื้อต่อการปล่อยสินเชื่อใหม่ ขณะเดียวกัน ในปีนี้ธนาคารให้ความสำคัญต่อดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเป็นหลัก โดยปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อของธนาคารเป็นสินเชื่อบ้าน 22% สินเชื่อรถ 30% สินเชื่อเอสเอ็มอีรายเล็ก 7% และสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่-กลาง 37% และอื่นๆ 5%
สำหรับการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญของธนาคารนั้น ในไตรมาส 1 และ 2 ได้มีการตั้งสำรองเพิ่มเพื่อเตรียมรับสถานการณ์อยู่แล้ว และในไตรมาส 3 และ 4 ก็จะต้องกันสำรองเพิ่มอีก เนื่องจากเป็นช่วงที่ครบโครงการพักชำระหนี้-เงินต้นของ ธปท.ซึ่งอาจจะมีลูกหนี้บางรายไม่มีความสามารถในการชำระหนี้กลับมา และทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้น ซึ่งประเมินสิ้นปีนี้น่าจะแตะที่ระดับ 3% จากไตรมาส 2 ที่ 2.34% อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้เตรียมความพร้อมมาระดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง โดยให้ write off เอ็นพีแอลออกไปส่วนหนึ่งแล้วจากไตรมาสแรกที่อยู่ในระดับ 2.76% และอัตราการตั้งสำรองต่อหนี้สูญเพิ่มมาเป็น 114% ในไตรมาส 2 จากระดับ 106% ในไตรมาส 1
นายปิติ กล่าวอีกว่า ราคาหุ้นของธนาคารที่ลดลงต่ำมูลค่าทางบัญชี เป็นไปตามแนวโน้มที่เป็นไปทั่วโลก จากความวิตกกังวลในสถานการณ์โควิด-19 แต่อย่างไรก็ตาม ฐานะเงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18-19% ซึ่งหากสถานการณ์ยืดเยื้อจนถึงขั้นกินทุนก็ประเมินไว้ไม่เกิน 2% เงินกองทุนอยู่ที่ระดับ 16-17% ส่วนเรื่องการเพิ่มทุนนั้น ควรหนีให้ห่างคำนี้ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้
ส่วนการกันสำรองตามมาตรฐาน TFRS 9 ที่ได้เริ่มใช้ในปีนี้นั้น ธนาคารได้เตรียมตัวสำหรับเรื่องดังกล่าวมา 2-3 ปีแล้ว และขณะนี้ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี โดยมียอดการกันสำรองเกินกว่าที่ TFRS 9 กำหนดอยู่แล้ว และสำรองทั้งระบบก็มีเพียงพอ
ทั้งนี้ แนวทางการออกหุ้นกู้ของธนาคารนั้น ได้ขออนุมัติการออกหุ้นกู้ไว้ 200,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 140,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงขนาดของธนาคารที่ใหญ่ขึ้นตามการควบรวม โดยรายละเอียดในการออกจะเป็นไปตามภาวะตลาดแต่ละช่วง ซึ่งการระดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้ ถือเป็นตัวเสริมหนึ่งที่ธนาคารใช้เพื่อการบริหารจัดการต้นทุนให้เหมาะสม
**เผยกันสำรองหุ้นกู้ THAI แล้ว 50%**
สำหรับกรณีบริษัทกาารบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ธนาคารไม่ได้มีการปล่อยสินเชื่อให้แต่อย่างใด แต่ธนาคารได้มีการลงทุนในหุ้นกู้ของการบินไทย จำนวน 3,150 ล้านบาท โดยธนาคารได้มีการตั้งสำรองหนี้เสียในหุ้นกู้ดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว 50% ของมูลค่าการลงทุน ซึ่งธนาคารสำรองหนี้เสียกรณีนี้เกณฑ์เดียวธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) อย่างไรก็ตาม ในฐานะเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ของการบินไทย ธนาคารยังต้องรอดูแผนฟื้นฟูที่ออกมาอีกครั้งก่อน จึงจะทราบถึงการคืนเงินว่าจะได้คืน หรือจะต้องกันสำรองเพิ่มอีกหรือไม่