xs
xsm
sm
md
lg

CIMBT เตรียมจับมือบิ๊กอีคอมเมิร์ซรุกดิจิทัล เลนดิ้ง รับสินเชื่อปีนี้วูบ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ซีไอเอ็มบีไทยเผยแผนธุรกิจรายย่อยเน้นช่องทางดิจิทัล พร้อมเปิดให้บริการเงินฝากออมทรัพย์ชิลดีให้ยืนยันตัวตนได้ที่เซเว่น อีเลฟเว่น ตั้งเป้าสิ้นปีมียอด 1.5 พันล้าน พร้อมจับมือพันธมิตรอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ลุยดิจิทัล เลนดิ้ง ด้านสินเชื่อปล่อยใหม่รวมปีนี้คาดวูบ 20-25% ใกล้เคียงระบบ ขณะที่ยอดคงค้างทรงตัว

นายตัน คีท จิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) 
เปิดเผยว่า แผนงานธุรกิจรายย่อยของธนาคารในครึ่งหลังของปี 2563 นั้น จะเน้นทางด้านดิจิทัล โดยหลังที่การทดสอบ E KYC ได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ออกจาก Sand Box ล่าสุด ธนาคารจะเปิดให้บริการเงินฝากออมทรัพย์ชิลดี ผ่านการยืนยันตัวตนทาง E KYC ได้ที่เซเว่น อีเลฟเว่นทั้ง 13,000 สาขา โดยเงินฝากออมทรัพย์ชิลดี ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 2% ฟรีค่าธรรมเนียมถือบัตรเดบิต และหากลูกค้ายืนยันตัวตนผ่าน E KYC ได้ที่ เซเว่น อีเลฟเว่นจะได้รับบัตรกำนัลทันที 100 บาท ซึ่งธนาคารตั้งเป้าหมายในสิ้นปีนี้มียอดเงินฝากออมทรัพย์ชิลดี จำนวน 1,500 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 500,000 ราย เป็นลูกค้าเก่าและรายใหม่อย่างละ 50%

"การที่ธนาคารหันมาเน้นในช่องทางดิจิทัลนั้น เนื่องจากผ่านการทดสอบ E KYC แล้วการยืนยันตัวตนจึงสามารถทำผ่านช่องทางอื่นที่ไม่จำเป็นต้องไปสาขาของธนาคารได้ลดจำนวนลงเหลือประมาณ 60 แห่งก็ได้ ขณะที่สาขาที่มีอยู่ก็จะหันมาเพิ่มศักยภาพในด้านการขายมากขึ้น"

ด้าน Digital Lending ธนาคารได้ทดลองเปิดให้บริการสมัครสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชันแล้ว ประกอบด้วย สินเชื่อบุคคลโดยจับมือกับฟินเทคจากประเทศจีน ชื่อ 9F (ไนน์เอฟ) ให้ลูกค้าสมัครสินเชื่อบุคคลวงเงินตั้งแต่ 12,000-60,000 บาทต่อราย และหากสามารถดำเนินการได้ด้วย NDID แล้ว ก็จะสามารถให้บริการ Digital Lending ได้เต็มรูปแบบซึ่งน่าจะเป็นปลายปีนี้ และยังมีโครงการที่ธนาคารอยู่ระหว่างการหารือ e-Commerce เพื่อนำเสนอสินเชื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำได้ภายในปีนี้

ส่วนสินเชื่อรถเปลี่ยนเงิน “ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ แคช” ลูกค้าสมัครผ่านแอป CIMB THAI AUTO โดยเลือกรุ่นรถ เลือกปี และกรอกวงเงินที่ต้องการ และ 3.เป็นการจับมือกับพาร์ตเนอร์คือ NEO Money บริษัทฟินเทคผู้ให้บริการสินเชื่อรวมหนี้ ออกมาเพื่อช่วยลูกค้าที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายธนาคาร แอป NEO จะรวมหนี้มาที่เดียวให้ลูกค้ามารีไฟแนนซ์กับธนาคารเพื่อประหยัดดอกเบี้ยถูกลง และสะดวกชำระหนี้ที่เดียวจบ ไม่ตัองจ่ายหนี้หลายๆ แบงก์ ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ได้รับรางวัล Best Finance Consumer Product จาก The Asian Banking & Finance Retail Banking Award 2020

หนึ่งในกลยุทธ์ของธนาคาร คือ การมองหาพันธมิตรทางธุรกิจ โดยมี 2 รูปแบบ คือ พันธมิตรที่จะมาช่วยเพิ่มขีดความสามารถของธนาคาร และ พันธมิตรที่ช่วยขยายฐานลูกค้า และเข้าถึงบริการธนาคารได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่าง คือ NEO Money และ 9F เป็นฟินเทคสัญชาติจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq มีเทคโนโลยีก้าวหน้า โดยเฉพาะ AI ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะเข้ามาช่วยทำให้ Digital Lending ของธนาคารเดินหน้าได้เป็นอย่างดีในอนาคต ซึ่งตามแผนงานแล้วในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะมีสัดส่วน Digital Lending ในพอร์ตประมาณ 35% แต่สถานการณ์โดยรวมไม่เอื้อ ทำให้ยังไม่สามารถเดินหน้าได้มากนัก เราจึงพยายามทำในด้านการเก็บวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อพัฒนารูปแบบให้สะดวกและตรงใจลูกค้าได้มากขึ้นในระยะต่อไป

พร้อมกันนั้น ธนาคารตั้งเป้าหมายจะเป็นผู้นำที่ปรึกษาทางการเงินในปีนี้ โดยจะเน้นลูกค้า CIMB Preferred ที่มีเงินฝากและเงินลงทุน 3 ล้านบาทขึ้นไป โดยได้จับมือ 8 บลจ.ในการเปิด open architecture ล่าสุด เพิ่งได้รางวัล Wealth Platform ยอดเยี่ยมจาก The Asian Banking & Finance Retail Banking Award 2020 จากการเป็นธนาคารแรกที่ออก structure product และเป็นผู้นำด้านหุ้นกู้ตลาดรอง

**สินเชื่อปล่อยใหม่วูบ 20-25%**
ด้านสินเชื่อรายย่อยของธนาคารในปีนี้คาดว่าจะทรงตัวระดับใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรกที่ 145,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อปล่อยใหม่น่าจะลดลง 20-25% ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับอุตสาหกรรมรวม โดยในสถานการณ์ที่ยังมีความเสี่ยงอยู่ในขณะนี้ ธนาคารจะมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างมีคุณภาพมากกว่าเร่งเพิ่มปริมาณ ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ระดับ 3% และจะทรงตัวในระดับนี้จนถึงสิ้นปี จากสิ้นปีก่อนที่ระดับ 3.6% ซึ่งธนาคารได้มีการเพิ่มทีมในการดูแล-ติดตาม รวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกหนี้ ซึ่งหลังจากมาตรการผ่อนปรนการชำระหนี้เฟส 1 ผ่านไปมีลูกหนี้ที่ต้องเข้าสู่การผ่อนปรนในเฟส 2 เพียง 20% เท่านั้น ขณะที่การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญนั้นในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาได้ตั้งสำรองไว้ในระดับที่สูงเป็นพิเศษแล้ว เนื่องจากถือว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจจะติดลบมากที่สุดของปี ดังนั้น ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 คงจะตั้งไม่ต้องตั้งในระดับเดียวกัน แต่ก็ยังคงต้องระมัดระวังอยู่


กำลังโหลดความคิดเห็น