สมาร์ทคอนกรีตโชว์ผลประกอบการครึ่งแรกปี 63 กวาดรายได้รวม 212.56 ล้านบาท กำไรโต 148.72% ควบคุมต้นทุนดี ดันอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่ม 47.80% เผยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 เติบโตต่อเนื่อง นโยบายการลงทุนโครงการภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการอสังหาฯ ทยอยกลับมาลงทุน หนุนความต้องการใช้งานวัสดุอิฐมวลเบา-อิฐมวลเบาประเภทตกแต่งเพิ่ม
นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART เปิดเผยถึงผลประกอบการครึ่งแรกปี 2563 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 212.56 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 217.26 ล้านบาท จำนวน 4.7 ล้านบาท หรือลดลง 2.21% และมีกำไรสุทธิ 20.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.43 ล้านบาท จำนวน 12.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 148.72%
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 94.64 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 110.06 ล้านบาท จำนวน 15.42 ล้านบาท หรือลดลง 14.01% และมีกำไรสุทธิ 8.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5.71 ล้านบาท จำนวน 2.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 47.90%
ทั้งนี้ ผลประกอบการในส่วนของกำไรที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากราคาขายที่สูงขึ้นจากปีก่อน และบริษัทปรับปรุงการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นงวดครึ่งปีแรกอยู่ที่ 51.74 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 24.41% เพิ่มขึ้น 16.73 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 35.01 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 16.17%
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/63 มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC อีกทั้งนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ของภาครัฐ เช่น งานก่อสร้างอาคารสถานีรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่เริ่มดำเนินโครงการ รวมถึงโครงการอสังหาฯภาคเอกชนที่ทยอยลงทุนในโครงการต่างๆ เช่น งานอุตสาหกรรม ที่พักอาศัยแนวราบ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาปรับตัวดีขึ้น ปริมาณการใช้งานวัสดุอิฐมวลเบาและอิฐมวลเบาประเภทตกแต่งเพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาจำหน่ายอิฐมวลเบาปรับตัวเพิ่มขึ้น