xs
xsm
sm
md
lg

เอสซีจี แพคเกจจิ้ง โกยยอดขายครึ่งปีแรก 4.6 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





เอสซีจี แพคเกจจิ้ง กวาดรายได้ครึ่งปีแรก 45,903 ล้านบาท เติบโต 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รับยอดขายบรรจุภัณฑ์กลุ่มอีคอมเมิร์ซ ฟูดดีลิเวอรี ผลิตภัณฑ์อาหารส่งออก สินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพที่พุ่งแรง อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีฐานลูกค้าที่หลากหลายอยู่ในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ส่วนกำไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3,636 ล้านบาท เติบโต 40%

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาจากแผนกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นแพกเกจจิ้งสำหรับ B2C และการขยายธุรกิจด้วยการควบรวมกิจการ (Merger & Partnership) แม้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 และการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศเพื่อยับยั้งโรคระบาด

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 45,903 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,636 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 40 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของการผลิต การทำ Synergy ระหว่างโรงงานที่มีอยู่หลากหลาย และการบริหารสัดส่วนการขายสินค้าได้ดี จึงสามารถรักษาอัตรา EBITDA Margin (กำไรก่อนภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย) ไม่ให้ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจสำหรับปัจจัยที่ SCGP สามารถสร้างการเติบโตได้ดีในครึ่งปีแรกมาจากยอดขายบรรจุภัณฑ์สำหรับอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) ฟูดดีลิเวอรี ผลิตภัณฑ์อาหารส่งออก สินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ (Healthcare) ที่เติบโตอย่างมาก

เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 และการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้ประชาชนบางส่วนปรับเปลี่ยนการทำงานเป็นแบบ Work From Home และปรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตสู่ New Normal โดยประชาชนมีการเลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มขึ้น ใส่ใจในสุขภาพและใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย เช่น แอลกอฮอล์เจล สเปรย์ฆ่าเชื้อ ฯลฯ รวมถึงสั่งซื้ออาหารมารับประทานที่บ้านมากขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งชดเชยกับความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์บางกลุ่มสินค้าที่ชะลอตัวลง เช่น ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์

ขณะเดียวกัน การที่บริษัทฯ มีฐานลูกค้ากระจายอยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่หลากหลายถือเป็นจุดเด่นของ SCGP โดยลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต รวมถึงบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญต่อการออกแบบผลิตภัณฑ์รวมถึงพัฒนาโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าแบบเฉพาะรายและร่วมทำงานกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด จึงทำให้เกิดฐานลูกค้าที่แข็งแรงและได้รับคำสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ ในช่วงที่ผ่านมาผลประกอบการของบริษัทฯ ยังได้รับผลดีจากการควบรวมกิจการหรือ Merger and Partnership (M&P) กับ PT Fajar Surya Wisesa Tbk ผู้นำธุรกิจบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ในประเทศอินโดนีเซีย และบริษัทวีซี่ แพ็คเกจจิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562

นายวิชาญกล่าวว่า สำหรับตลาดบรรจุภัณฑ์ในประเทศไทยช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะยังคงมีการเติบโตท่ามกลางความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายในทางที่ดีขึ้นและมีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคธุรกิจต่างๆ ทยอยกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง จึงน่าจะส่งผลดีต่อการอุปโภคและบริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี อย่างไรก็ตาม กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์จะยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวเนื่องจากเป็นสินค้าคงทนและมีมูลค่าสูง

ส่วนแนวโน้มความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน อาทิ ประเทศเวียดนาม คาดว่าจะได้รับผลบวกจากการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และรองเท้า จึงคาดว่าตลาดในประเทศเวียดนามจะยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี สำหรับประเทศอินโดนีเซียและประเทศฟิลิปปินส์คาดว่าความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในครึ่งปีหลังยังชะลอตัว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และภาคอุตสาหกรรมยังไม่ฟื้นสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้ SCGP เดินหน้าก่อสร้างเพื่อขยายกำลังการผลิต 4 โรงงานใน 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศอินโดนีเซีย ด้วยเงินลงทุนประมาณ 8,200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2563-2564 และอยู่ระหว่างการเข้าซื้อกิจการโรงผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกในประเทศเวียดนาม ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจเติบโตในภูมิภาคอาเซียน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้


กำลังโหลดความคิดเห็น