"โฮมโปร" หวังงานอีเวนต์ใหญ่และกิจกรรมส่งเสริมการขายช่วงครึ่งปีหลัง ดึงยอดขายชดเชยตัวเลขติดลบ 12% กลับคืนมาได้ แต่ภาพรวมรายได้คงไม่ได้ตามเป้า 69,900 ล้านบาท เหตุเจอทั้งภัยแล้ง ผลกระทบจากโควิด-19 ล็อกดาวน์ เผยปลายปีเตรียมเปิด 2 สาขาโฮมโปรขนาดใหญ่ในโซนรังสิต คลอง 4 และสุขสวัสดิ์ ชะลอเปิดโฮมโปร เอส ออกไปก่อน
น.ส.ศิริวรรณ เปี่ยมเศรษฐสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกลยุทธ์ในการผลักดันยอดขายในครึ่งปีหลังว่า โฮมโปร หวังกิจกรรมส่งเสริมการขายและการจัดอีเวนต์ใหญ่เพื่อกระตุ้นให้ตลาดที่เกี่ยวกับสินค้าตกแต่งบ้าน มีความคึกคัก ทั้งงานโฮมโปรที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่ และงานโฮมโปร เอ็กซ์โป ช่วงปลายปีนี้ ซึ่งอาจจะมีเรื่องชอปช่วยชาติ ที่จะออกมา
ทั้งนี้ ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โฮมโปรต้องปิดสาขาในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นสาขาหลักที่สร้างรายได้ให้แก่โฮมโปร ซึ่งช่วงล็อกดาวน์ในกรุงเทพฯ และการปิดสาขาในต่างประเทศ มีผลให้รายได้รวมในครึ่งปีแรกติดลบไปประมาณ 12% แต่ในช่วงเดือนเมษายน ยอดขายผ่านออนไลน์เติบโตถึง 500% อย่างไรก็ตาม เรามีความมั่นใจว่า ด้วยแผนการตลาดที่วางไว้ การบริหารต้นทุน จะทำให้ในครึ่งปีหลังจะดึงตัวเลขติดลบ 12% กลับมาได้
"ในภาพตอนเกิดโควิด-19 เราประมาณการผลกระทบไม่ได้เลย อย่าลืม เราคาดว่าจะมียอดขายเท่านี้ กี่ตัว แต่ผู้ผลิตไม่สามารถส่งของให้เราได้ ตอนนี้ซัปพลายเชนมีปัญหา ผู้ผลิตไม่คิดว่าจะเกิดปัญหาโรคระบาด อย่างเช่น เครื่องอบจาน 400 ตัว จะขายหมดเกลี้ยง เรามีการเตรียมสินค้าไว้ 6 เดือน แต่ผู้ผลิตจากทั่วโลกไม่สามารถส่งของให้เราได้ ซึ่งสัดส่วนนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศคิดเป็น 11% ของยอดขายรวม"
อนึ่ง ในไตรมาสแรกตัวเลขที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ มีรายได้อยู่ที่ 15,333.29 ล้านบาท ลดลง1,219.72 ล้านบาท หรือลดลง 7.37% ทั้งปีวางเป้ารายได้อยู่ที่ 69,900 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการปรับแผนเรื่องการเปิดสาขาใหม่จากช่วงครึ่งปีแรกขยับไปเปิดในครึ่งปีหลังแทน ได้แก่ สาขาโฮมโปรที่รังสิต คลอง 4 รูปแบบมาร์เกตวิลเลจ สาขาที่ 4 มีร้านค้าต่างๆ สาขาที่ราชพฤกษ์ และสาขาสุขสวัสดิ์ ส่วนการเปิดสาขาในรูปแบบโฮมโปร เอส เดิมปีนี้จะเปิด 4 สาขา แต่ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องชะลอการเปิดสาขาในรูปแบบโฮมโปร เอส ในคอมมูนิตีมอลล์ออกไปก่อน
สำหรับเทรนด์ของพฤติกรรมลูกค้าหลังจากผ่านช่วงโควิด-19 มา จะมีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะมีผลต่อการจับจ่ายใช้สอยในการเลือกสินค้าที่เกี่ยวกับสินค้าภายในบ้าน เช่น ที่นอน ลูกค้าจะเปลี่ยนเร็วขึ้น จาก 20 ปีเปลี่ยนครั้ง กลายเป็น 15 ปี ก็ตัดสินใจปรับเปลี่ยนเร็วขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น หรือแม้แต่จักรยานของเด็กๆ หรือ จักรยานไฟฟ้า ช่วงล็อกดาวน์เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมาก