หุ้นปิดเช้าลบ 1.64 จุด เผชิญแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศเป็นลบ ท่ามกลางทยอยประกาศงบฯ แนวโน้มการลงทุนในภาคบ่ายคาดตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง โดยตลาดยังรอดูตัวเลขส่งออกของไทยเดือน มิ.ย.ที่จะประกาศวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะติดลบน้อยลง
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ โดยระหว่างทางดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นไปได้บ้างหลังจากที่ร่วงแรงวานนี้ แต่ยังเผชิญปัจจัยจากต่างประเทศเป็นลบ ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง, รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งจีนปิดสถานกงสุลในเมืองฮิวสตันภายใน 72 ชั่วโมง, พรรครีพับลิกันมีแผนลดเงินพิเศษเพื่อช่วยเหลือผู้ตกงานในสหรัฐฯ จาก 600 เหรียญ/สัปดาห์ เหลือ 100 เหรียญ/สัปดาห์ในไตรมาส 3/63 แสดงให้เห็นถึงเม็ดเงินอัดฉีดน้อยลง
ส่วนปัจจัยในประเทศ ต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/63 ของบริษัทจดทะเบียนต่อไป หลังจากกลุ่มแบงก์ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดมาก ต่อไปเป็นคิวกลุ่ม Real Sector มอง SCC คาดงบฯ ไตรมาส 2/63 ยังเติบโตได้ทั้ง yoy และ qoq อาจช่วยหนุนตลาดได้บ้าง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวลบสลับบวก แนะติดตามความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,355.40 จุด ลดลง 1.64 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.12% มูลค่าการซื้อขายราว 36,403.15 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายสุโชติกล่าวว่า ตลาดฯ คงจะแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง โดยตลาดยังรอดูตัวเลขส่งออกของไทยเดือน มิ.ย.ที่จะประกาศวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะติดลบน้อยลงเมื่อเทียบกับเดือน พ.ค.