หุ้นปิดเช้าลบ 2.79 จุด ดัชนีแกว่งไซด์เวย์ลักษณะของการพักตัวเพื่อรอปัจจัยใหม่ เผชิญแรงถ่วงจากการเมืองในประเทศ และงบฯ แบงก์แย่กว่าคาด แนวโน้มการลงทุนในภาคบ่ายคาดตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ไปก่อน
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์เป็นลักษณะของการพักตัวเพื่อรอปัจจัยใหม่ หลังจากปรับขึ้นไปตอบรับปัจจัยบวกสหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลงจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโรไปแล้ว ซึ่งตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียขึ้นนำตลาดยุโรปและสหรัฐฯ แต่ก็ยังมีปัจจัยกระตุ้นจากความคาดหวังฝั่งสหรัฐฯออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ตลาดฯ ยังเผชิญแรงถ่วงจากปัจจัยในประเทศ ทั้งเรื่องการเมืองในประเทศที่ขณะนี้การปรับคณะรัฐมนตรียังไม่ชัดเจน และผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 2/63 โดยรวมออกมาแย่กว่าตลาดคาดไว้ เป็นผลจากการตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้นมาก ทำให้มองว่าหากจะลงทุนหุ้นในกลุ่มแบงก์คงต้องรอไปก่อน และคาดว่ากองทุนก็คงจะลดน้ำหนักลงทุนกลุ่มแบงก์ด้วย
แนะวันนี้ติดตามศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่พิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 1 เดือน และการปลดล็อกดาวน์เฟส 6 แต่เชื่อว่าจะไม่สร้าง Surprise ให้กับตลาดฯ รวมทั้งติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,374.21 จุด ลดลง 2.79 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.20% มูลค่าการซื้อขายราว 33,746.31ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตรกล่าวว่าตลาดฯ คงจะแกว่งไซด์เวย์ไปก่อน โดยมีแนวรับ 1,365 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380-1,392 จุด