"ศุลกากร" เผยผลปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายในเดือน มิ.ย.63 มีทั้งสิ้นกว่า 1.7 พันคดี คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังเผยสถิติการตรวจพบการกระทำความผิดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มียอดรวมกว่า 1.9 หมื่นคดี คิดเป็นมูลค่า 2.4 พันล้านบาท
นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวถึงผลการปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร น้ำมัน ยาเสพติด IPRs และสินค้าละเมิดอนุสัญญา CITES ว่า ในเดือนมิถุนายน 2563 กรมศุลกากรตรวจพบการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากรหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับศุลกากร จำนวน 1,714 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 122 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมศุลกากรได้ตรวจพบการกระทำความผิดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562-มิถุนายน 2563 ทั้งสิ้น 19,287 คดี หรือคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,486 ล้านบาท
สำหรับผลงานการปราบปราม ในเดือนมิถุนายน 2563 นั้น ศุลกากรได้ตรวจพบพัสดุต้องสงสัย ต้นทางจากต่างประเทศ จำนวน 20 หีบห่อ จึงประสานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกันเปิดตรวจพัสดุดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบเม็ดยาสีน้ำตาล เม็ดสีชมพู เม็ดสีเขียว และเม็ดสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (Ecstasy) จำนวนรวม 19,890 เม็ด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจพบพัสดุต้องสงสัยเพิ่มเติม ซึ่งมีต้นทางจากต่างประเทศ จำนวน 6 หีบห่อ จึงประสานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกันเปิดตรวจพัสดุดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบเม็ดยาสีน้ำตาล เม็ดสีชมพู และเม็ดสีเขียว ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (Ecstasy) จำนวนรวม 5,995 เม็ด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4.7 ล้านบาท ทั้งนี้ สถิติการตรวจยึดยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา โดยเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562-มิถุนายน 2563 มีจำนวนคดี ทั้งสิ้น 257 คดี
นอกจากนี้ โฆษกกรมศุลกากร ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงผลปรามปรามการลักลอบขนน้ำมันดีเซลจากการตรวจสอบรถบรรทุกน้ำมัน บริเวณถนนพระรามที่ 2 กม.34-35 ต.บางกระเจ้า อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร พบน้ำมันดีเซลมีเมืองกำเนิดต่างประเทศและไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรมาแสดง ปริมาณ 30,000 ลิตร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 600,000 บาท
ในวันเดียวกัน กรมศุลกากรยังได้ตรวจสอบรถบรรทุกน้ำมัน จำนวน 3 คัน ได้แก่ คันที่ 1 ตรวจพบที่ริมถนนพระราม 2 ต.คลองโคน อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร พบน้ำมันดีเซลมีเมืองกำเนิดต่างประเทศ จำนวน 18,000 ลิตร คันที่ 2 ตรวจพบที่ริมถนนสายธนบุรี-ปากท่อ ต.บางแก้ว อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม พบน้ำมันดีเซลมีเมืองกำเนิดต่างประเทศ จำนวน 16,000 ลิตร
และคันที่ 3 ตรวจพบที่ริมถนนพระราม 2 ฝั่งขาออกกรุงเทพฯ ต.บ้านบ่อ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร พบน้ำมันดีเซลมีเมืองกำเนิดต่างประเทศ จำนวน 16,000 ลิตร คิดรวมปริมาณรวมทั้ง 3 คัน ได้จำนวน 50,000 ลิตร ซึ่งน้ำมันทั้งหมดไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรมาแสดง โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท
นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังได้ตรวจสอบรถบรรทุกน้ำมัน จำนวน 1 คัน บริเวณริมถนน ถ.สุขสวัสดิ์ ต.ลัดหลวง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พบน้ำมันดีเซลมีเมืองกำเนิดต่างประเทศที่ไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากร ปริมาณ 18,000 ลิตร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4 แสนบาท ด้านสถิติการจับกุมน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562-มิถุนายน 2563 ได้แก่ น้ำมันดีเซล จำนวน 267 คดี ปริมาณ 3.6 แสนลิตร มูลค่ากว่า 8.3 ล้านบาท น้ำมันเบนซิน จำนวน 333 คดี ปริมาณ 1.5 แสนลิตร มูลค่ากว่า 3.6 ล้านบาท
นอกจากนี้ กรมศุลกากร พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารราบเชิงรุกที่ 1 ได้ทำการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีการลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร บริเวณแม่น้ำโก-ลก พบเครื่องสูบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 50 ชุด และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2,150 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 500,000 บาท สำหรับสถิติการจับกุมบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562-มิถุนายน 2563 มีจำนวนคดี ได้แก่ 1.บุหรี่ จำนวน 670 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 134.9 ล้านบาท 2.บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ จำนวน 573 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 11.1 ล้านบาท
