"สศค." เผยยอดผู้ลงทะเบียน "เราเที่ยวด้วยกัน" ครึ่งวันแรกมีกว่า 1.7 ล้านราย แม้มีบางช่วงที่ประชาชนอาจไม่ได้รับความสะดวกในการรอรับ OTP บ้างจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บางเครือข่าย แต่ภาพรวมยังราบรื่น ย้ำให้ยืนยันตัวตนบนแอปเป๋าตังภายใน 3 วันทำการเมื่อได้รับ SMS แจ้งผลแล้ว ส่วนการจองห้องพักเริ่มได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 18 ก.ค.63 เป็นต้นไป โดยต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนเข้าพัก ส่วนการได้รับสิทธิจะเกิดขึ้นเมื่อมีการจองห้องพักและชำระเงิน 60% แล้ว
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า จากการเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่เว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ในวันนี้เป็นวันแรก มีผู้มาลงทะเบียนแล้วกว่า 1.7 ล้านราย (ข้อมูล ณ เวลา 13.00 น.) ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนตามเป้าหมาย สำหรับระบบการลงทะเบียน แม้มีบางช่วงที่ประชาชนอาจไม่ได้รับความสะดวกในการรอรับ OTP บ้างจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บางเครือข่าย แต่ในภาพรวมถือว่าดำเนินไปอย่างราบรื่น
โฆษกกระทรวงการคลัง ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทะเบียนนี้เป็นขั้นตอนแรกเพื่อแสดงความประสงค์เข้าร่วมรับสิทธิตามมาตรการ โดยระบบจะตรวจสอบข้อมูลและแจ้งผลการลงทะเบียนทาง SMS ภายใน 3 วัน เมื่อได้รับ SMS แจ้งผลแล้ว จึงสามารถเริ่มยืนยันตัวตนบนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ สำหรับการจองห้องพักสามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป โดยจะต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนเข้าพัก ทั้งนี้ การได้รับสิทธิจะเกิดขึ้นเมื่อมีการจองห้องพักและชำระเงิน 60% เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ สามารถดูจำนวนสิทธิคงเหลือจากจำนวนรวมทั้งมาตรการที่กำหนดไว้ 5 ล้านสิทธิได้แบบ real-time ที่หน้าเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังยังได้ยกตัวอย่างการสนับสนุนค่าห้องพักสูงสุดที่ 3,000 บาทต่อคืน เช่น ราคาค่าห้องพักที่ 4,000 บาทต่อคืน ประชาชนจะจ่ายจริง 60% หรือ 2,400 บาทต่อคืน และรัฐสนับสนุน 40% หรือ 1,600 บาทต่อคืน แต่ในกรณีค่าที่พัก 7,500 บาทต่อคืน ประชาชนจะจ่ายจริงที่ 4,500 บาทต่อคืน โดยรัฐบาลจะช่วยจ่ายสมทบให้อีก 3,000 บาทต่อคืน และในกรณีค่าที่พัก 10,000 บาทต่อคืน ประชาชนจ่ายเอง 7,000 บาทต่อคืน และรัฐบาลสนับสนุนให้อีกที 3,000 บาทต่อคืน
ส่วนกรณีสนับสนุน e-Voucher สำหรับค่าอาหาร/สถานที่ท่องเที่ยวค่าอาหาร/สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดทะเบียนบ้านของตนเองนั้น รัฐบาลกำหนดเงื่อนไขให้ประชาชนจ่ายจริง 60% ขณะที่รัฐบาลจะจ่าย e-Voucher สนับสนุนให้ 40% เช่น ค่าใช้จ่ายรวมที่ 1,000 บาท ประชาชนจะจ่ายจริงเพียง 600 บาท รัฐบาลจ่ายสมทบให้อีก 400 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายรวมที่ 1,500 บาท ประชาชนจะต้องจ่ายเอง 900 บาท และรัฐบาลจะช่วยสมทบอีก 600 บาท แต่ในกรณีที่ค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 2,500 บาท ประชาชนจ่ายเอง 1,500'บาท และรัฐบาลช่วยจ่ายสมทบอีก 1,000 บาทในกรณีที่ e-Voucher สะสมเพียงพอ