ศูนย์วิจัยทองคำคาดดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำระยะสามเดือนในไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 (ก.ค.-ก.ย.) ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 จากระดับ 62.11 จุด มาอยู่ที่ระดับ 62.83 จุด เพิ่มขึ้น 0.72 จุด หรือคิดเป็น 1.16% จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และทิศทางราคาน้ำมัน
นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ แถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน กรกฎาคม 2563 ปรับเพิ่มขึ้น 2.32 จุด หรือคิดเป็นที่ 3.86% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมานั้นมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
ในส่วนของคาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 296 ตัวอย่าง พบว่าร้อยละ 50.34 ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่ ขณะที่ร้อยละ 29.05 ยังไม่ซื้อทองคำในเดือน กรกฎาคม 2563 และร้อยละ 20.61 คาดว่าจะซื้อทองคำในช่วงเดือนนี้
นอกจากนี้ จากการสำรวจสรุปกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำจำนวน 10 ตัวอย่าง โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำในเดือนกรกฎาคม 2563 จะเพิ่มขึ้นมีจำนวน 5 ราย และคาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือนมิถุนายน 2563 มีจำนวน 3 ราย ส่วนที่คาดว่าราคาทองคำจะลดลงมีจำนวน 2 ราย
สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนกรกฎาคม 2563 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมองดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,717-1,822 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 25,400-26,900 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาทไทยให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 30.68-31.72 บาทไทยต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ การลงทุนทองคำในเดือนกรกฎาคม 2563 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่าราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวไปในทิศทางเชิงบวก โดยราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งนี้ ราคาทองคำยังคงมีความผันผวน เนื่องจากราคาแกว่งตัวในระดับสูง และเคลื่อนไหวใกล้กับระดับสูงสุดในรอบหลายปี ดังนั้น นักลงทุนควรติดตามความเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ เพื่อเป็นการวางแผนการลงทุนล่วงหน้า