กสิกรไทยเดินหน้าเต็มที่ช่วยลูกค้าช่วงโควิด-19 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ 650,000 ราย ยอดสินเชื่อคงค้าง 828,000 ล้านบาท และให้เงินทุนเพิ่มแก่ลูกค้า 94,000 ราย เพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงวิกฤต จำนวนเงินรวม 156,000 ล้านบาท ขณะที่โครงการพิเศษ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” และ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” มียอด 1,144 ล้านบาท รักษาการจ้างพนักงาน 49,000 ราย ประเมินหลังจบมาตรการพักต้นมียอด60%กลับมาไหว
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารฯ ได้ให้การช่วยเหลือลูกค้าในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ด้วยการพักชำระหนี้ให้แก่ลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ 650,000 ราย ยอดสินเชื่อคงค้าง 828,000 ล้านบาท และการให้เงินทุนเพิ่มเพื่อเสริมสภาพคล่องสำหรับลูกค้าธุรกิจ 94,000 ราย จำนวน 156,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดการปล่อยสินเชื่อที่เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 30% โดยธนาคารฯ ยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องสำหรับลูกค้าที่ยังเดือดร้อนให้สามารถดำเนินธุรกิจอยู่รอดต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
โดยมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในจำนวนที่ 650,000 ราย คิดเป็นยอดสินเชื่อคงค้าง 828,000 ล้านบาทนั้น โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าธุรกิจ มีวงเงินพักต้น 746,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 293,000 ราย ปล่อยกู้เพิ่ม 143,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 60,000 ราย เป็นส่วนของลูกค้าบุคคลที่พักต้น 82,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 356,000 ราย ปล่อยกู้เพิ่ม 13,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 34,000 ราย ทั้งนี้ ในจำนวนสินเชื่อเพิ่มที่ปล่อยให้แก่ลูกค้าธุรกิจนั้น เป็นส่วนของโครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” และ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” จำนวน 1,144 ล้านบาท สามารถช่วยรักษาการจ้างพนักงานได้จำนวน 49,000 ราย
"ภายหลังจากหมดระยะพักต้นและดอกเบี้ยนั้น ธนาคารก็ยังประเมินสถานการณ์ลำบากว่าจะมีลูกค้าธุรกิจที่สามารถกลับมาชำระคืนได้ขนาดไหน เพราะปัจจัยต่างๆ ยังไม่แน่นอน เช่น จะมีโควิด-19 ระลอก 2 หรือไม่ ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่เข้าโครงการหรือมาขอสินเชื่อเพิ่มนั้น บางส่วนก็อาจจะขอไว้เพื่อสำรองความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นก่อนก็ได้ แต่เท่าที่เราดูๆ ในเบื้องต้นสัก 60% ที่น่าจะกลับมาไหว ที่เหลือก็ต้องพิจารณาต่อไป แต่ธนาคารเองก็มีหลักประกันของสินเชื่อโดยรวมอยู่ประมาณ 80% อยู่แล้ว"
นายพัชร กล่าวว่า โครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” นั้น เป็นโครงการที่ธนาคารฯ ลดดอกเบี้ยให้แก่ธุรกิจที่ยังมีกำลังอยู่ เพื่อให้เจ้าของนำเงินส่วนนี้ไปจ่ายเงินเดือนพนักงาน และโครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” เป็นการให้เงินทุนแก่ธุรกิจขนาดเล็ก ในอัตราดอกเบี้ย 0% 10 ปี โดยปีแรกไม่ต้องจ่ายคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เพื่อนำไปจ่ายเงินเดือนให้แก่พนักงาน ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้ผลตอบรับที่ดีและเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ธนาคารฯ ตั้งไว้ โดยให้เงินช่วยลูกค้าไปแล้วรวม 1,144 ล้านบาท สามารถช่วยรักษาการจ้างพนักงานได้จำนวน 49,000 ราย จากงบประมาณที่ตั้งไว้ 1,500 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งต้องขอบคุณน้ำใจจากเจ้าของธุรกิจบางรายที่ปฏิเสธความช่วยเหลือของธนาคารฯ เนื่องจากมองว่าตัวเองยังไหวและเข้าใจดีว่าธนาคารฯ ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทุกคน จึงเสียสละเพื่อให้ธนาคารฯ นำเงินไปช่วยเหลือธุรกิจที่เดือดร้อนกว่า
ทั้งนี้ ในช่วงตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันลูกค้าธุรกิจของธนาคารฯ มียอดรวมเงินฝากเพิ่มขึ้น 13% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกค้าบางส่วนยังมีกำลังพอที่จะชำระหนี้หลังครบกำหนดพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยธนาคารฯ ติดต่อลูกค้าเพื่อให้ความช่วยเหลือโดยใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์หรือดูความจำเป็นของลูกค้าเพื่อนำเสนอความช่วยเหลือที่เหมาะสม ทั้งนี้ หากลูกค้าท่านใดที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อเข้ามาที่ธนาคารฯ ได้ ธนาคารฯ มีความตั้งใจเต็มที่จะช่วยให้ลูกค้าที่เดือดร้อนด้วยเงินทุนที่ธนาคารฯ มีอยู่
"แม้ในช่วงวิกฤตที่ต้องเผชิญต่อความยากลำบาก แต่ลูกค้ายังมีวินัยทางการเงินและมีการชำระหนี้เข้ามา ธนาคารฯ ขอขอบคุณลูกค้าทุกคน หากทุกคนช่วยเหลือและร่วมมือกันเราจะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน"