xs
xsm
sm
md
lg

เอสซีจี ไฮม์ ส่งนวัตกรรมใหม่ “Ionizer System” ตอบโจทย์การอยู่อาศัยยุค New Normal

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอสซีจี ไฮม์ ชูเทคโนโลยีรับการอยู่อาศัยในยุค New Normal พร้อมบ้าน 5 ซีรีส์ กว่า 100 แบบบ้าน ตอบโจทย์ความต้องการคนที่กำลังมองหานวัตกรรมบ้านคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และบริการที่ครบวงจร ล่าสุด ได้เปิดสาขาใหม่ราชพฤกษ์อย่างเป็นทางการ พร้อมบ้านตัวอย่าง และ Sales gallery ลุยจัดแคมเปญพิเศษ ติดตั้งฟรีระบบ “Ionizer” การปล่อยไอออน ช่วยลดปริมาณเชื้อรา สารฟอร์มาลดีไฮด์ ไวรัส และสารก่อภูมิแพ้ เพื่ออากาศสะอาดภายในบ้าน สำหรับลูกค้าที่จอง หรือทำสัญญาปลูกสร้างบ้านกับเอสซีจี ไฮม์ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ส.ค.นี้

นายวีระเดช โกวพัฒนกิจ ผู้จัดการการตลาด บริษัท เอสซีจี เซกิซุย-เซลส์ จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มความต้องการสร้างบ้านเพื่อการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปจากการระบาดของโควิด-19 ใส่ใจในหลายประเด็นเพิ่มขึ้นนอกจากเรื่องดีไซน์ โดยเฉพาะขนาดพื้นที่บ้านที่มีบริเวณ และต้องเป็นบ้านที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเรื่องสุขอนามัย และตอบโจทย์เรื่องการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home ซึ่งเป็นการอยู่อาศัยวิถีใหม่ หรือ New Normal ที่กำลังเกิดขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อรองรับการอยู่อาศัยวิถีใหม่ ล่าสุด เอสซีจี ไฮม์ ยังมีการพัฒนาระบบใหม่ คือ ระบบไอออนไนเซอร์ (Ionizer System) ที่จะตอบรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยในยุค New Normal ซึ่งเป็นเทคโนโลยีกรองอากาศภายในบ้าน ด้วยการปล่อยไอออน (ion) หรืออานุภาคไฟฟ้าประจุลบและบวกในอากาศ ที่สามารถช่วยลดปริมาณเชื้อรา สารฟอร์มาลดีไฮด์ ไวรัส และสารก่อภูมิแพ้ที่เกิดจากไรฝุ่นในอากาศก่อนนำเข้าสู่ภายในบ้าน ทำให้อากาศภายในบ้านสะอาดยิ่งขึ้น ซึ่ง Ionizer System นี้ได้มีการนำไปใช้งานจริงในห้องคัดกรองและตรวจผู้เสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 (Modular Screening Unit & Modular Swab Unit) ด้วย

ในส่วนโครงสร้างบ้านของเอสซีจี ไฮม์ เป็นบ้านโครงสร้างเหล็กที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากบริษัท เอสซีจี เซกิซุย-เซลส์ จำกัด เป็นบ้านที่โครงสร้าง และชิ้นส่วนบ้านกว่า 80% ถูกสร้างสำเร็จมาจากโรงงาน แล้วนำมาประกอบที่หน้างานโดยใช้ระบบ Modular โดย Module ที่ถูกประกอบ หรือทำขึ้นมาเป็นชิ้นส่วนต่างๆ ของบ้าน เช่น พื้น ผนังภายใน และผนังภายนอกที่ผลิต และตรวจสอบคุณภาพจากโรงงานก่อนส่งมาประกอบอีกครั้งที่หน้างาน

ข้อดีของการก่อสร้างบ้านในระบบนี้อยู่ที่การมีโครงสร้างที่แข็งแรง ผสมผสานกับวัสดุ และเทคโนโลยีจากเอสซีจี มีระบบกรองและเติมอากาศสะอาด ป้องกันมลพิษจากภายนอกบ้าน นอกจากนั้น ยังเป็นบ้านที่มีระบบการดูแลรักษาที่ง่าย และมีบริการตรวจเช็กสภาพบ้านฟรีทุกหลังตลอด 20 ปี

ทั้งนี้ บ้าน เอสซีจีไฮม์ ได้มีการพัฒนาโปรดักต์เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยในแบบ New Normal ไว้ครบใน 4 ประเด็นหลักๆ ที่สำคัญได้แก่

1.Trusted Construction บ้านเอสซีจี ไฮม์ เป็นการสร้างบ้านด้วยระบบ Modular ผลิตโครงสร้างบ้านในโรงงาน โดยใช้เทคโนโลยีการสร้างจากประเทศญี่ปุ่น หมดปัญหากับผู้รับเหมาที่ส่งงานไม่ตรงเวลา งบประมาณบานปลาย

2.Live a Healthy Life ระบบ Air Factory, Ionizer ช่วยในการกรองฝุ่น PM2.5 ละอองเกสร กลิ่น เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส และสารก่อภูมิแพ้ ทำให้อากาศสะอาด ก่อนหมุนเวียนเข้าสู่ตัวบ้าน

3.Absolute Relaxation ระบบ Air Tightness รูปแบบเฉพาะของเอสซีจี ไฮม์ที่ประสานระบบการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ และระบบการก่อสร้างที่ดี ช่วยลดเสียงรบกวนและความวุ่นวายจากภายนอกบ้านเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่

4.Lifetime Worry free มั่นใจได้ว่าตลอดเวลาที่อยู่ในบ้านเอสซีจี ไฮม์จะได้รับความอุ่นใจ สบายใจ ด้วยการรับประกันโครงสร้างและฐานรากนาน 20 ปี โดยมีเจ้าหน้าที่บริการหลังการขายดูแลคอยให้บริการ ไม่ต้องกังวลเรื่องหาช่างเมื่อมีปัญหา พร้อมตรวจเช็กสภาพบ้านฟรีทุกหลัง

นายวีระเดช กล่าวต่อว่า จากการที่บริษัทเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมา และสร้างบ้านให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 1,000 หลัง ทำให้เข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยเอสซีจี ไฮม์ มีบ้านทั้งหมด 5 ซีรีส์ มากกว่า 100 แบบ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้แก่ แบบ ULTIMATE Series ราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท แบบ HARMONY Series บ้านราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท แบบ SMART Series ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท แบบ CARE Series ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท ที่ออกแบบและคิดมาเพื่อผู้สูงวัย พร้อมฟังก์ชันต่างๆ ตั้งแต่ภายนอกบ้านจนถึงภายในบ้าน เช่น ทางลาด ราวจับ (Safety bar) ไฟทางเดิน (Automatic Night Light) และพื้นบ้านที่ไม่มี Step เรียบเสมอกัน และ แบบ TRUST Series บ้านที่มีราคาเริ่มต้น 3.95 ล้านบาท ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น

นอกจาก เอสซีจี ไฮม์ จะมีบ้านตัวอย่างสาขาแรกที่คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ เลียบด่วนรามอินทรา ล่าสุด ได้เปิดบ้านตัวอย่างอีกหนึ่งสาขาคือ เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เปิดให้บริการแล้วและสร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยสาขาเดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ นี้มีบ้านตัวอย่างแตกต่างจากสาขาแรก โดยเป็นบ้านรุ่น ULTIMATE Series มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 317.4 ตารางเมตร สามารถสร้างบนที่ดิน 130 ตารางวาขึ้นไป ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ (พื้นที่ใช้สอยไม่รวมโรงจอดรถ) พร้อมนวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิตของการอยู่อาศัยอย่างครบวงจร ในราคา 16.2 ล้านบาท ให้ลูกค้าได้เข้ามาเยี่ยมชม โดยเป็นบ้านในขนาดที่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางที่มองการอยู่อาศัยภายใต้คุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ตามแนวคิดการทำงานที่มุ่งเน้นสร้าง Ultimate Living ที่สุดของบ้านเพื่อคุณภาพการอยู่อาศัย

อีกทั้งบริการหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะสร้างบ้านหลังใหม่ ไม่ว่าจะสร้างบนที่ดินที่มีบ้านเดิมที่อาศัยอยู่แล้วมายาวนาน หรือจะสร้างบ้านบนที่ดินเปล่า และงานบริการที่หลากหลายเพื่อลดขั้นตอนให้แก่ลูกค้า เช่่น การรื้อถอน การขนย้ายของจากบ้านหลังเดิมมาบ้านใหม่ การตกแต่งภายในและภายนอกอาคาร ตรวจเช็ก ซ่อมแซม และดูแลรักษา

“เอสซีจี ไฮม์ เข้าใจและใส่ใจถึงคุณภาพการอยู่อาศัย เรามีการพัฒนาและใช้นวัตกรรมเพื่อให้ลูกค้าได้มีบ้านที่ทำให้สมาชิกในครอบครัวพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ และมีสุขภาพที่ดี เราดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดตั้งแต่การออกแบบบ้าน ผลิตบ้านในโรงงาน ก่อสร้าง ตรวจสอบคุณภาพ และส่งมอบบ้าน พร้อมเข้าอยู่อาศัย ช่วยลดปัญหา การก่อสร้างล่าช้า และงบบานปลาย ได้วัสดุคุณภาพตามที่ตกลงไว้ ส่งมอบงานตรงเวลา และตามมาตรฐานที่กำหนด พร้อมรับประกันนาน 20 ปี และบริการตรวจเช็กสภาพบ้านฟรีตลอดระยะเวลารับประกัน”

โดยเอสซีจี ไฮม์ จัดแคมเปญพิเศษติดตั้งระบบ “Ionizer” ฟรี สำหรับลูกค้าที่จอง หรือทำสัญญาปลูกสร้างบ้านกับเอสซีจี ไฮม์ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2563


กำลังโหลดความคิดเห็น