ตามที่มีข่าวการเลิกกิจการของ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด นั้น นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการบินและการให้บริการของสายการบินนกแอร์แต่อย่างใด นกแอร์มุ่งมั่นที่จะให้บริการการบินในเส้นทางบินภายในประเทศตามปกติ
ปัจจุบันนกแอร์ได้ให้บริการใน 18 เส้นทาง 70 เที่ยวบินต่อวัน ถือเป็นสายการบินที่ให้บริการผู้โดยสารมากที่สุดของไทยในขณะนี้ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินตามความต้องการของผู้โดยสารที่มีความต้องการที่จะเดินทางเพิ่มเติมอีกในอนาคต
ส่วนการบินระหว่างประเทศนั้น เมื่อรัฐบาลแต่ละประเทศได้มีการอนุญาตให้มีการทำการบินได้ นกแอร์ก็จะกลับมาให้บริการในเส้นทาง ฮิโรชิมา ย่างกุ้ง และโฮจิมินห์ตามเดิมในทันที
ด้านนายประเวช องอาจสิทธิกุล ประธานกรรมการบริหารนกแอร์ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการบริษัทวาระพิเศษ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 นั้น คณะกรรมการบริษัทได้มีมติรับทราบการเลิกกิจการและชำระบัญชีของบริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด โดยมีบริษัท นกมั่งคั่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49.65 ของทุนจดทะเบียนหรือคิดเป็น 1,470 ล้านบาท เนื่องจากบริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลให้การคมนาคมระหว่างประเทศหยุดชะงัก และยังไม่มีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นปกติในเร็ววันนี้
นายประเวชยังเปิดเผยต่ออีกว่า การยกเลิกกิจการของนกสกู๊ตนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของนกแอร์