“คลัง-แบงก์กรุงไทย” ร่วมเปิดตัว “วอลเล็ต สบม.” มิติใหม่ของการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ และการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น “วอลเล็ต สบม.” บนแอปเป๋าตัง โดยกำหนดวงเงินรวม พันธบัตร 200 ล้านบาท มี 3 ปี หวังเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าซื้อพันธบัตรฯ ในราคาหน่วยละ 1 บาท โดยกำหนดวงเงินซื้อขั้นต่ำไว้ที่ 100 บาท สูงสุดที่ 5 แสนบาท จ่ายอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.70% เตรียมเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดแอปเป๋าตัง เพื่อลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านวอลเล็ต สบม. ได้ตั้งแต่ 19 มิ.ย.63 เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยเข้าซื้อพันธบัตรรุ่นนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.-14 ส.ค.นี้ “อุตตม” ย้ำความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้เทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง และยังเป็นการขยายการลงทุนที่ครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างไม่มีข้อจำกัด
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว “วอลเล็ต สบม.” โดยมี น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย น.ส.ภัทรวสี สุวรรณศร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด และนายเดช ฐิติวณิช ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายระบบข้อสนเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้เทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง และเพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่อาจจะมีเงินไม่มากนักสามารถเข้าถึงพันธบัตรที่มีความมั่นคงสูงได้มากขึ้น โดยเฉพาะคนกลุ่ม Gen-Z ที่มีความถนัดในการใช้เทคโนโลยี รวมถึงกลุ่มคนที่เพิ่งทำงาน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวยังเป็นไปเพื่อขยายเรื่องการลงทุนที่ครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างไม่มีข้อจำกัด โดยรัฐบาลมีหน้าที่เป็นผู้นำร่อง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังยืนยันว่าจะเดินหน้าพัฒนาระบบเศรษฐกิจดิจิทัลและระบบการเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมต่อไป พร้อมทั้งยังย้ำว่าโควิด-19 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าระบบเศรษฐกิจดิจิลนั้นเป็นเรื่องจริงและได้มาถึงแล้ว
สำหรับรายละเอียดการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น วอลเล็ต สบม. ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 นั้น ได้วงเงินจำหน่ายวงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท โดยกำหนดหน่วยลงทุนไว้ที่หน่วยละ 1 บาท โดยพันธบัตรจะมีอายุ 3 ปี หรือกำหนดวันครบอายุไถ่ถอนวันที่ 24 มิถุนายน 2566 ขณะเดียวกัน ยังได้กำหนดเงื่อนไขจ่ายอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 1.70 ต่อปี ทั้งยังได้กำหนดวงเงินซื้อขั้นต่ำไว้ที่ 100 บาท และวงเงินซื้อขั้นสูงที่ 500,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถซื้อเพิ่มได้ครั้งละ 100 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งในการเข้าซื้อ
โดยกระทรวงการคลังกำหนดขายพันธบัตรฯ ให้แก่บุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 1.70 ต่อปี วงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท วงเงินซื้อต่อรายขั้นต่ำที่ 100 และขั้นสูงที่ 500,000 บาท โดยจะเปิดจำหน่ายได้ตั้งแต่วันพุธที่ 24 มิถุนายน จนถึงวันที่ 14 สิงหาคม 63 ซึ่งผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตัง ลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านวอลเล็ต สบม. ได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ส่วนผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องให้ผู้ปกครองให้ความยินยอม ณ ธนาคารกรุงไทย โดยกำหนดให้ใช้เอกสาร 1.บัตรประชาชนของผู้เยาว์และผู้ปกครอง 2.ทะเบียนบ้าน ทั้งนี้ การจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นกำหนดให้ดำเนินการปีละ 2 งวด คือ ในวันที่ 24 ธันวาคม และวันที่ 24 มิถุนายนของทุกปี
อย่างไรก็ตาม ช่องทางการจำหน่ายวอลเล็ต สบม. นั้น สามารถดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยผู้สนใจสามารถสอบถามเกี่ยวกับการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตัง การลงทะเบียน การใช้งานวอลเล็ต สบม. ได้ที่ Call Center โทร.0-2111-1111 หรือที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถดำเนินการได้เองอย่างสะดวกด้วยตนเองผ่าน e-Wallet ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านระบบ e-KYC โอนเงินเพื่อซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ได้จากทุกธนาคารเข้าวอลเล็ต สบม. เช็กประวัติการซื้อพันธบัตรได้ทันทีแบบ Real-time รวมถึงดาวน์โหลด/แจ้งความจำนงเกี่ยวกับเอกสารต่างๆ เช่น หนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย การออกหนังสือค้ำประกันวงเงิน เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสมุดพันธบัตร (Bond Book) โดยจะสามารถเช็กประวัติการซื้อพันธบัตรในวอลเล็ต สบม. แทน
สำหรับวัตถุประสงค์หลักของ “วอลเล็ต สบม.” หรือวอลเล็ต สะสมบอนด์มั่งคั่ง กำหนดไว้เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) และเข้าถึงพันธบัตรออมทรัพย์ได้ง่าย สะดวกสบาย และเท่าเทียมกัน โดยเป็นโครงการนำร่องที่นำเทคโนโลยีมาใช้จำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านกระเป๋าตังค์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ซึ่งเป็นการต่อยอดแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งได้ออกแบบโครงสร้างใหม่ให้เป็นระบบการเงินแบบเปิด สามารถรองรับวอลเล็ตได้หลายตัวพร้อมๆ กัน และเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ภายใต้โครงการ MOF Blockchain ที่ได้ริ่เริมพัฒนาตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนระบบการเงินในโลกแห่งอนาคตที่ต้องคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ ความรวดเร็ว ความโปร่งใส และลดโครงสร้างต้นทุน ผ่านการลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนและไม่จำเป็นออกไป
โดยการเปิดตัวการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มทางการเงินร่วมกันของประเทศในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้พันธบัตรออมทรัพย์เป็นรูปแบบการลงทุนตามเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างแท้จริง (Technology-wise) ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพระบบงานของภาครัฐ ปรับลดกระบวนงานภาครัฐ ลดความยุ่งยากในการติดต่อกับตัวแทนจำหน่าย รวมถึงการใช้ e-Document เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับพันธบัตรออมทรัพย์ ซึ่งโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจาก ธปท. และ TSD ที่สนับสนุนโครงการนำร่องนี้ และในอนาคตจะมีการต่อยอดกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) ตลาดทุนไทยของ ก.ล.ต. ที่จะรองรับทุกกิจกรรมที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง
ด้าน นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า จากนโยบายกระทรวงการคลังในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อยกระดับการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เพื่อให้การทำธุรกรรมทางการเงินและการจัดเก็บวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญเป็นการวางโครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลสู่ชุมชน อีกทั้งยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจองค์รวมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ธนาคารกรุงไทยในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ จึงได้พัฒนาช่องทางการซื้อขายพันธบัตรด้วยวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่จะได้เห็นการซื้อขายพันธบัตรผ่านช่องทางดิจิทัล โดยธนาคารฯ ได้ออกแบบแอปพลิเคชันเป๋าตังภายใต้โครงสร้างใหม่เพื่อให้เป็นระบบการเงินแบบเปิดที่สามารถรองรับวอลเล็ตได้หลายตัวพร้อมๆ กัน โดยมีการนำเทคโนโลยี Blokchain มาประยุกต์ออกแบบใหม่ เพื่อให้สามารถรองรับการเงินในโลกแห่งอนาคต
สำหรับวอลเล็ต สบม.นี้ ธนาคารฯ ได้ออกแบบการซื้อขายพันธบัตรให้เป็นแบบรวมศูนย์ ซึ่งจะทำให้การจำหน่ายมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถซื้อขายได้แบบ Real Time ซึ่งผู้ขายจะมีข้อมูลผลลัพธ์การขายเป็นรายนาที ขณะที่ผู้ซื้อเห็นข้อมูลของเงินและพันธบัตรในวอลเล็ตเดียวกัน และเมื่อมีการซื้อขายพันธบัตรแล้ว ข้อมูลการถือครองจะแสดงให้เห็นในวอลเล็ตทันที ไม่ต้องรอ 15 วันเหมือนที่ผ่านมา