xs
xsm
sm
md
lg

SCB จับตาธุรกิจหลังคลายล็อก ย้ำเร่งเยียวยา ปล่อยสินเชื่อรัดกุม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (16 มิ.ย.) ธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่หอประชุมมหิศร สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน โดยนายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ในปี 2563 เป็นปีที่ธนาคารเผชิญจากความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างหนักหน่วง รวมถึงภาวะการแข่งขันในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่รุนแรง และดีสรัปชันทางเทคโนโลยี ล้วนเป็นปัจจัยที่กดดันต่อการทำกำไรของธนาคาร โดยภายใต้สถานการณ์ที่เปราะบางนี้ กลยุทธ์ของธนาคารจะให้ความสำคัญในการบริหารจัดการลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจ การบริหารความเสี่ยงสินเชื่ออย่างรัดกุมควบคู่ไปกับการรักษาระดับกำไรของธุรกิจหลัก และสร้างฐานรายได้จากธุรกิจใหม่ในยุค New Normal ซึ่งธนาคารสามารถเร่งช่วยหลือลูกค้าอย่างรวดเร็วและเต็มที่ เนื่องจากมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีระบบเทคโนโลยีที่ดี ทำให้สามารถเข้าช่วยอย่างทันท่วงที

ด้านธุรกิจหลักมีกลยุทธ์ใน 4 ด้านด้วยกัน หนึ่ง ด้านสินเชื่อเน้นการดูแลคุณภาพมากกว่าการเติบโตเชิงปริมาณ ใช้ความสามารถและเครื่องมือด้านวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ และมีทีมงานที่ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด 2.เน้นการเพิ่มรายได้ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง โดยใช้เทคโนโลยี Robo Advisor มาใช้ ในการเพิ่มผลตอบแทนและลดต้นทุน และในด้านธุรกิจประกันได้ร่วมกับ FWD ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และสร้างช่องทางทางการขายใหม่ผ่านนายหน้า ซึ่งในไตรมาสแรกเห็นการพัฒนาเติบโตได้ดี 3.คุมการใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มผลืตภาพการทำงานของพนักงาน รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาแทนกระบวนการทำงานเดิม และ 4.ต่อยอดความสามารถในการนำข้อมูลต่างๆ มาใช้ในเชิงวิเคราะห์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน รวมทั้งธนาคารได้เปิดตัวบริษัทเอสซีบี เทนเอ็กซ์ ที่เป็นเครื่องยนต์หลักในการลงทุนทางเทคโนโลยีที่สร้างมูลค่าจากธุรกิจใหม่ๆ

ทั้งนี้ จากสถานการณ์โควิด-19 และต้องล็อกดาวน์ประเทศ ก็ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและธุรกิจอื่นในวงกว้าง ทั้งทางรัฐบาล และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมถึงธนาคารพาณิชย์ก็ได้มีมาตรการต่างๆ ออกมาเยียวยาไปแล้วหลายเรื่อง แต่ผลที่จะเกิดขึ้นนั้นก็อาจจะมีบางผู้ประกอบการที่ไปต่อได้ หรือไปต่อไม่ได้ ซึ่งคงต้องรอให้สถานการณ์ล็อกดาวน์คลี่คลายลงจึงจะสามารถเห็นผลกระทบที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ธนาคารยังดำรงความสามารถในการทำกำไรได้อยู่ โดยหลักมาจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และธุรกิจประกัน ขณะเดียวกันธนาคารยังสามารถควบคุมด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากแผนการทำงานจากที่บ้านในช่วงโควิด-19 ที่มีพนักงานกว่า 50% ทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ดี

อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูหลังจากคลายมาตรการต่างๆ แล้ว หมดระยะเวลาการพักเงินต้นและดอกเบี้ยแล้ว จะมีธุรกิจที่ไปต่อไม่ได้ขนาดไหน ซึ่งในปัจจุบันการตั้งสำรองของธนาคารนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่มีความแข็งแกร่ง โดยได้มีการตั้งสำรองต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 และ 4 โดยมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 ถึง 18% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ขณะที่การปล่อยสินเชื่อใหม่จะเน้นที่คุณภาพเป็นหลัก เน้นธุรกิจที่แข็งแรงและมีความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก

"ภายหลังหมดระยะเวลาพักหนี้พักดอกเบี้ยแล้ว สิ่งที่ธนาคารต้องทำคือการยืดระยะเวลาหนี้ออกไปเพื่อไม่ให้เงินต้นที่ถูกพักไปกองเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่จะทำให้ผู้ประกอบการที่เพิ่งฟื้นรับภาระไม่ไหว ขณะที่พักดอกเบี้ยนั้นเป็นการพักชำระ แต่ไม่ได้พักการคิด ดังนั้น รายได้ดอกเบี้ยของธนาคารจึงได้รับอยู่ในระยะต่อไป"

ส่วนแผนธุรกิจในปีนี้คงจะต้องมีการทบทวน ซึ่งก็จะมีทั้งในส่วนที่ต่ำกว่าเกณฑ์ก็จะเป็นกรณีของสินเชื่อเนื่องจากในพอร์ตมีสินเชื่อบ้านมาก และธนาคารเน้นคุณภาพเป็นหลัก ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และธุรกิจประกันที่เติบโตได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1 รวมถึงการบริหารต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ น่าจะลดลงได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้นั้น คงต้องดูหลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้ธุรกิจสามารถกลับดำเนินได้ระยะหนึ่ง แต่ธุรกิจที่เรามองว่าอาจจะมีส่วนที่กลับมาไม่ได้บ้างนั้นน่าจะเป็นด้านท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการส่งออกบางส่วน

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคมที่ธนาคารมีการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน และได้ยกเลิกโครงการไปเมื่อเดือนเมษายนนั้น นายอาทิตย์ กล่าวว่า ในช่วงเดือนมีนาคมแม้จะมีสัญญาณของโควิด-19 แต่ยังเป็นช่วงต้นไม่มีความชัดเจนว่าจะขยายไปในวงกว้าง แต่เมื่อถึงเดือนเมษายนความรุนแรงชัดเจนขึ้น ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว ธนาคารจึงต้องการที่ต้องเก็บเงินทุนหรือเงินสำรองไว้เพื่อช่วยลูกค้าเป็นอันดับแรก แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตหากมีโอกาสหรือมีรูปแบบที่เหมาะสม คณะกรรมการก็อาจจะพิจารณานำโครงการดังกล่าวมาใช้อีกได้
กำลังโหลดความคิดเห็น