AEC เผยแก้ไขปัญหาเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ NC และ NCR กลับเข้าสู่ภาวะปกติเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ ก.ล.ต.อนุมัติให้กลับไปประกอบธุรกิจได้ตามปกติ ระบุพร้อมลุยเต็มที่เพื่อสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจทำธุรกิจอย่างแท้จริง
นายชองอี ไต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้รับเงินจากการระดมทุนจากนิติบุคคลอื่นซึ่งไม่มีความเกี่ยวโยงกันเป็นจำนวน 150 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) และอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ให้บริษัทฯ สามารถดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิได้ตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และจะทำให้บริษัทฯ กลับมามีสถานะที่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ซึ่งปัจจุบันได้ยื่นหนังสือไปยังสำนักงาน ก.ล.ต.เพื่อให้พิจารณาให้บริษัทฯ กลับมาประกอบธุรกิจได้ตามปกติ
เขากล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะแก้ไขเรื่องการดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยใช้แผนระยะเร่งด่วนและสามารถแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงแล้ว ส่วนการดำเนินธุรกิจต่อไปมีแผนระยะกลางที่กำหนดไว้แล้ว คือการขอมติผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติในเรื่องการเพิ่มทุนจำนวน 4,590,933,780 หุ้น ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินจากการระดมทุนครั้งนี้จำนวนประมาณ 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะออกหุ้นกู้วงเงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอต่อการดำเนินงานและขยายธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น สามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจหลัก และ/หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งยังสามารถรองรับการลงทุนในธุรกิจที่สามารถต่อยอดจากธุรกิจหลักของบริษัทได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการช่วยเพิ่มรายได้และผลกำไรที่ดีต่อบริษัทในอนาคต
"เป้าหมายในอนาคตอย่างหนึ่งที่ บล.เออีซีต้องการ คือ การยกระดับขึ้นเป็นบริษัทหลักทรัพย์ขนาดกลาง แต่เราจะไม่เร่งการเติบโตด้วยวิธีผิดๆ อย่างการซื้อตัวมาร์เกตติ้งมาสร้างวอลุ่ม วิธีดังกล่าวนี้ไม่มั่นคง วิธีที่ดีกว่าคือ สร้างคนของเราขึ้นมาเอง และสร้างภาพบริษัทฯ ของเราให้เข้าไปอยู่ในใจลูกค้า แม้จะต้องใช้เวลามากกว่าแต่ก็มั่นคงกว่า และไม่ได้แค่มุ่งเพิ่มมาร์เกตแชร์ แต่จะเติบโตจากรายได้ประเภทอื่นๆ ด้วย" นายชองอี ไต้ กล่าวในที่สุด
ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 63 มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจาก 1,224,249,008 บาท เป็น 5,815,182,788 บาท โดยออกหุ้นใหม่ 4,590,933,780 หุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็น จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 3,060,622,520 หุ้น เสนอขาย RO สัดส่วน 0.4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดจองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 24-28 ส.ค. 63 และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 1,530,311,260 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ รุ่นที่ 6 (AEC-W6) ที่จะออกจำนวนไม่เกิน 1,530,311,260 หน่วย จัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 2 หุ้นใหม่ต่อ 1 วอร์แรนต์ โดยวอร์แรนต์มีอายุไม่เกิน 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 0.20 บาท/หุ้น