แสนสิริ ประกาศเป้ายอดขายปี 63 จาก 29,000 ล้านบาท สู่ 35,000 ล้านบาท โต 67% จากปีก่อน เผยยอดขายล่าสุด 22,000 ล้านบาท โต 168% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังปิดการขาย 16 โครงการในรอบ 5 เดือน ล่าสุด ปิดการขาย “เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง” พร้อมจ่อปิดการขาย เดอะ เบส สุขุมวิท 50 เปิดแผนธุรกิจ 3 แกร่ง เปิดตัว 14 โครงการใหม่พร้อมแผนรองรับในทุกสถานการณ์ เน้นความสมดุลสต๊อก บริหารกระแสเงินสดแข็งแกร่ง ชูเงินหมุนเวียนกว่า 10,000 ล้าน
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า แสนสิริได้พิจารณาปรับเป้าหมายยอดขายปี 63 จากเดิม 29,000 ล้านบาท เป็น 35,000 ล้านบาท หรือเติบโต 67% จากปีก่อนที่มียอดขายรวม 21,000 ล้านบาท หลังยอดขายในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวสูงถึง 22,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 168% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 76% จากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ 29,000 ล้านบาท
“การตอบรับที่ดีของลูกค้าจากความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ และการดำเนินธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง เช่น การเปิดตัวแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ที่คิดจากความเข้าใจใน Customer Insight จากการจองซื้อที่อยู่อาศัยแล้ว ไม่ต้องจ่ายทั้งต้นทั้งดอกเป็นเวลา 2 ปี ลูกค้าไม่ต้องกังวลกับสภาพเศรษฐกิจ ส่งผลให้ลูกค้าให้การตอบรับสูงและรวดเร็ว ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ยังทำให้แสนสิริต้องเร่งการขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ให้เร็วกว่าแผนเดิม เพื่อแข่งขันกับสภาพตลาดส่งผลให้มียอดขายและยอดโอนที่ดี สวนกระแสตลาดหดตัว”
โชว์ปิดการขาย 16 โครงการต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมากลุ่มสินค้าที่อยู่อาศัยของ แสนสิริ ในทุกกลุ่มประสบความสำเร็จ จากความเชื่อมั่นของลูกค้าในแบรนด์แสนสิริ ทำให้สามารถปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัยถึง 16 โครงการ ซึ่งแบ่งเป็น 12 โครงการแนวราบและ 4 โครงการคอนโดมิเนียม ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น บ้านแนวราบ โครงการสราญสิริ ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ โครงการนาราสิริ โทเพียรี่ โครงการนาราสิริ พุทธมณฑล สาย 1 ส่วนโครงการแนวสูงที่ปิดการขายไปแล้ว 4 โครงการ คือ ดีคอนโด แคมปัส โดม รังสิต ดีคอนโด กำแพงแสน ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท กู้กู ภูเก็ต และเดอะ เบส เพชรเกษม นอกจากนี้ ยังได้ปิดการขายโครงการคอนโด “เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง” จำนวน 1,288 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,950 ล้านบาท และคาดว่าจะปิดการขายโครงการ เดอะ เบส สุขุมวิท 50 ได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนรุกธุรกิจที่แข็งแกร่งในช่วงที่เหลือของปี ภายใต้การบริหารธุรกิจ 3 แนวทาง คือ 1.การเปิดตัวโครงการใหม่ที่รัดกุมพร้อมปรับเปลี่ยนไปตามทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยเตรียมเปิดโครงการใหม่ 14 โครงการ แบ่งเป็น 12 โครงการแนวราบ มูลค่า 15,200 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 6 โครงการ ทาวน์โฮมและมิกซ์โปรเจกต์ 6 โครงการ ส่วนอีก 2 โครงการจะเป็นโครงการแนวสูง 2.การบริหารสต๊อกที่ดี โดยปัจจุบันแสนสิริ มีสินค้าพร้อมขาย 8,000 ล้านบาท นับว่าเป็นปริมาณที่มีความสุมดุลในตลาด และ 3.การบริหารกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องที่ดีด้วยการมีเงินหมุนเวียนในบริษัท 10,000 ล้านบาท ซึ่งมีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและมีความแข็งแกร่งในทุกสภาวการณ์ รวมถึงสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน
