TWPC โชว์งบไตรมาส 1/2563 มีกำไรสุทธิแตะ 82 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,550 ล้านบาท แม้ว่ายอดขายธุรกิจแป้งมันสำปะหลังจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบการส่งออกในไตรมาส แต่ธุรกิจอาหารยังเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง “โฮ เรน ฮวา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยหลังสถานการณ์คลี่คลายออเดอร์ส่งออกไปจีนฟื้นตัว หนุนยอดขายทุกผลิตภัณฑ์คึกคัก มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตเข้าเป้า high single digit เดินหน้าลงทุนเพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายไปตลาดต่างประเทศมากขึ้นรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2563 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 82 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมเท่ากับ 1,550 ล้านบาท
"สำหรับภาพรวมของการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/2563 ยังคงรักษากำไรสุทธิเอาไว้ได้ แม้ยอดขายจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ระบาด ทำให้ต้องเลื่อนแผนการส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปประเทศจีนบางส่วน แต่หลังจากสถานการณ์ในจีนเริ่มคลี่คลาย ทำให้ขณะนี้คำสั่งซื้อเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและมีทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่ด้านธุรกิจอาหาร ซึ่งเน้นตลาดในประเทศเป็นช่องทางหลัก ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปที่มีคุณภาพของบริษัทฯ ทำให้ผู้บริโภคไว้วางใจให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี และในไตรมาสนี้บริษัทมีกำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินและกำไรจากการซื้อกิจการ บริษัท เอเชียผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง จำกัด (ATP)" โฮ เรน ฮวา กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2563 แม้จะได้รับผลกระทบจากสถาณการณ์โรคโควิด-19 ระบาดทั่วโลก บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้ยังสามารถเติบโตได้ในอัตรา high single digit จากยอดขายทุกผลิตภัณฑ์มีการเติบโตได้ดีเพราะอยู่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภคซึ่งมีความจำเป็น ขณะที่การเติบโตของรายได้ในกลุ่มแป้งมันสำปะหลัง HVA จะได้รับการสนับสนุนจากการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น ATP เป็น 99.50% และการขยายกำลังการผลิตมากขึ้นอีกด้วย
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท ไทยวา อินโดนีเซีย จำกัด เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากแป้งมันสำปะหลัง แป้งข้าว และอาหารจากแป้งอื่นๆ เพื่อเพิ่มการเติบโตของปริมาณการขายอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาไบโอพลาสติก (Bioplastic) หรือพลาสติกที่ย่อยสลายผลิตจากแป้งมันสำปะหลังซึ่งเป็นวัสดุฐานชีวภาพ (bio-based) ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy)
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้บริษัทวางงบลงทุนรวมไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ภายในอีก 2 ปี เพื่อรองรับการขยายธุรกิจหรือต่อยอดจากธุรกิจเดิม รวมถึงการซื้อกิจการที่เชื่อมโยงกับ Core Business ของบริษัทฯ ทั้งในและต่างประเทศ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทั่วโลก บริษัทฯ ได้ทบทวนแผนเพื่อชะลอการลงทุนบางส่วนออกไป โดยยังมุ่งมั่นสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและอาหารจากแป้งระดับภูมิภาคเอเชียในอนาคต