น.ส.อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กลาวว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภค และตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนในช่วงหลังโควิด-19 โดยการเปลี่ยนของพฤติกรรมจะกลายเป็น 4 เทรนดหลักที่ส่งผลต่อการปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาฯประกอบด้วย 1.Health & Wellness การให้ความสำคัญต่อสุขภาพ 2.Socail Distancing ซึ่งได้รับความสำคัญในการอยู่ร่วมกันในครอบครัว 3.Managing Risks การบริหารความเสี่ยงในช่วงวิกฤต เช่น วิกฤตไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ ทำให้คนเริ่มตระหนักและสนใจที่จะซื้อบ้านหลังที่ 2 เพื่อใช้พักอาศัยในช่วงที่เกิดวิกฤต และ 4.Tech-savvy การเรียนรู้เทคโนโลยี หลังถูกบังคับให้ทำงานจากที่บ้าน โดยทั้ง 4 เทรนด์ใหม่นี้จะมีผลต่อการออกแบบและปรับโปรดักต์ที่อยู่อาศัยหลังวิกฤตโควิด-19
ขณะเดียวกัน ดีมานด์บ้านหลังที่ 2 เพื่ออยู่อาศัยเองจะกลับมาขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านหลังที่ 2 ในตลาดท่องเที่ยว โดยในช่วงวิกฤตโควิด-19 ลูกค้า ซีบีอาร์อี มีการพูดถึงบ้านหลังที่ 2 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่งมองไทยเป็นเป้าหมายด้านการท่องเที่ยว และเมื่อพูดถึงจุดหมายการท่องเที่ยวในไทย หัวหิน ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางหลัก เนื่องจากมีความสะดวกสบายในการเดินทาง มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งแหล่งชอปปิ้ง อาหาร และโรงพยาบาลรองรับ ทำให้หัวหินเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจอันดับต้นๆ ทำให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยในหัวหินขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ซัปพลายเกิดใหม่ในหัวหินมีจำนวนจำกัด เพราะที่ดินศักยภาพติดทะเลมีจำกัด ขณะที่ผู้พัฒนามุ่งเจาะกลุ่มเฉพาะมากกว่าการกระจายไปในเซกเมนต์ใหม่ๆ แม้ในทุกเซกต์เมนต์มีดีมานด์ขยายตัว ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยในหัวหินเปิดกว้างมากขึ้น โอกาสของบ้านหลังที่ 2 จึงเปิดกว้างตาม
สำหรับปัจจัยความสำเร็จในการพัฒนาโครงการ ผู้พัฒนาต้องคำนึงถึงการตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า เช่น บ้านตากอากาศยูนิตต้องมีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงการที่จับตลาดบน ขายชาวต่างชาติต้องมีแบรนด์เป็นที่รู้จักของลูกค้าต่างชาติ
น.ส.สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่ามีเดีย แอนด์คอนเซาท์ติ้ง จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมหัวหินมีผู้พัฒนาโครงการหลากหลาย ทั้งผู้พัฒนาในพื้นที่ และบริษัทอสังหาฯ จากส่วนกลางที่เข้าไปพัฒนาโครงการทำให้คอนโดในหัวหินมีความหลากหลาย ระดับราคาขายห้องชุดโครงการใหม่เริ่มต้น 80,000-140,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ส่วนห้องชุดมือสองมีราคาขาย 80,000-120,000 บาทต่อ ตร.ม. ส่วนค่าเช่าห้องชุดมีระดับราคาเริ่มต้น 18,000-35,000 บาทต่อเดือน หรือมีผลตอบแทนจากการเช่าที่ 4.5-6.5% ต่อปี โดยที่ผ่านมาลักษณะการซื้อห้องชุดของลูกค้าในหัวหินมี 2 แบบคือ เป็นการซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 และซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า
ทั้งนี้ ในปี 62 ที่ผ่านมา สถานการณ์ยอดโอนที่อยู่อาศัยหัวหินเมื่อเทียบกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ มีอัตราการเติบโตมากขึ้นกว่าเท่าตัว ขณะที่ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 121% โดยกลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีการโอนมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3 ล้านบาท ส่วนยอดขายในกลุ่มลูกค้าต่างชาติมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 123% สวนทางกับตลาดอสังหาฯ รวมซึ่งหดตัวทุกตลาด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงของการประกาศล็อกดาวน์ที่ผ่านมา หัวหินการควบคุมและจัดการได้มีศักยภาพดีมาก โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงและไม่มีการติดเชื้อเพิ่มจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและชาวต่างชาติจึงดีกว่าเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ดังนั้นหลังวิกฤตโควิด-19 จบลง เชื่อว่าหัวหินจะเป็นเมื่องท่องเที่ยวศักยภาพเมืองแรกๆ ที่มีดีมานด์บ้านหลังที่ 2 จะขยายตัวก่อนตลาดอื่นๆ