KUMWEL เดินหน้าธุรกิจตามแผน ปรับปรุงและจัดระบบภายใน หนุนประสิทธิภาพการขายและงานวางระบบ ล่าสุดพัฒนาและจดลิขสิทธิ์สินค้าใหม่ ปั๊มรายได้เพิ่ม เตรียมสร้างโรงงานผลิตแท่งหลักดิน คาดเสร็จปี 64 ยอมรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 กระทบธุรกิจบ้าง โครงการภาครัฐดีเลย์ พร้อมรักษาฐานะการเงินให้มั่นคง ควบคุมต้นทุนการผลิต ลดค่าใช้จ่ายส่วนที่ไม่จำเป็น ขยายฐานลูกค้าใหม่ภาครัฐ-เอกชน และต่างประเทศ เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้านวัตกรรม “Smart Lightning Management System”
นายบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KUMWEL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบป้องกันฟ้าผ่าและเตือนภัยฟ้าผ่าอย่างครบวงจรตามมาตรฐานสากล ภายใต้ตราสินค้า “Kumwell” เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้มีการบริหารจัดการปรับปรุงและจัดระบบภายใน ทำให้มีประสิทธิภาพในการขายสินค้าและรับงานวางระบบป้องกันและเตือนไฟฟ้าผ่าของหน่วยงานต่างๆ มากขึ้น โดยล่าสุดบริษัทมีการพัฒนาสินค้าขึ้นใหม่และจดลิขสิทธิ์สินค้าใหม่ 3 รายการ ได้แก่ 1) Smart Lightning Management System 2) Kumwell Distributed Acoustics (K-DAS) และ 3) ระบบตรวจจับแจ้งเตือนฟ้าผ่าชนิดแม่นยำสูง เพื่อเพิ่มรายได้ในอนาคต
อีกทั้งบริษัทยังดำเนินงานเตรียมก่อสร้างโรงงานสำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มหลักดิน (Ground Rod) ที่โรงงานแห่งใหม่ในอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี โดยคาดจะแล้วเสร็จปี 64 ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจที่บริษัทได้วางไว้หลังเข้าตลาดฯ
ทั้งนี้ บริษัทพยายามรักษาฐานะการเงินให้มั่นคง โดยมุ่งเน้นการควบคุมต้นทุนการผลิตอย่างเข้มงวด และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็น พร้อมรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ ทั้งภาครัฐ-เอกชน และต่างประเทศ โดยเฉพาะฐานลูกค้า พันธมิตร คู่ค้าทางธุรกิจที่มีกำลังซื้อและมีศักยภาพด้านการเงินที่แข็งแกร่ง เพื่อลดความเสี่ยงการเรียกเก็บเงินล่าช้า นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร เพื่อเพิ่มปริมาณงานติดตั้งอุปกรณ์และระบบเตือนภัยฟ้าผ่า โดยเฉพาะสินค้านวัตกรรมใหม่ “Smart Lightning Management System” นวัตกรรมระบบป้องกันฟ้าผ่าแบบอัจฉริยะ เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจในระยะกลางและระยะยาวได้
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 บริษัทยอมรับว่าได้รับผลกระทบบ้างในระยะสั้น ส่งผลให้การอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างล่าช้าออกไป แต่อย่างไรก็ดีบริษัทยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยหากสถานการณ์ไม่ขยายในวงกว้าง และจบลงภายในไตรมาส 2/63 จะทำให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เติบโต 15%
“แนวโน้มไตรมาส 2/63 ยังประเมินได้ยาก เพราะยังไม่ทราบว่าสถานการณ์โควิดจะคลี่คลายถึงเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการนำเสนอนวัตกรรม “Smart Lightning Management System” ในหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีและมีโอกาสได้งานสูงหลังผ่านพ้นช่วงสถานการณ์โควิด-19” นายบุญศักดิ์กล่าว