โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-อิงขึ้นตามภูมิภาค ขานรับสัญญาณดีจากยอดผู้ติดเชื้อโควิดในสหรัฐฯ ชะลอ นอกจากสหรัฐฯ แล้วไทยก็เริ่มที่จะทยอยปลดล็อก อย่างจังหวัดนนทบุรี ได้เริ่มประกาศที่จะให้ร้านค้าบางธุรกิจ อย่างร้านทำผม ที่ได้ถูกปิดไปก่อนหน้านี้ให้กลับมาเปิดบริการได้
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน อย่างตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 1% ขานรับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ ที่ชะลอลง และได้ส่งสัญญาณการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ค.นี้ รวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่ามีผู้มายื่นขอผลิตวัคซีนรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดถึง 70 รายการทั่วโลก และมี 3 รายการที่ได้มีการพัฒนานำไปใช้รักษาคนแล้ว
นอกจากสหรัฐฯ แล้วไทยก็เริ่มที่จะทยอยปลดล็อก อย่างจังหวัดนนทบุรี ได้เริ่มประกาศที่จะให้ร้านค้าบางธุรกิจ อย่างร้านทำผม ที่ได้ถูกปิดไปก่อนหน้านี้ให้กลับมาเปิดบริการได้ และจังหวัดอื่นๆ ก็มีแนวโน้มที่จะทยอยปลดล็อกด้วย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับราคาน้ำมันมองว่าได้ผ่านจุด bottom ไปแล้ว หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน แต่เช้านี้ทางซาอุดีอาระเบียได้ขายน้ำมันลดราคาให้กับทางเอเชีย ซึ่งมองเป็นลบ แต่คงจะเป็นการทำสัญญาซื้อขายไว้ก่อนหน้านี้
พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 1/63 ซึ่งก็คาดว่าจะออกมาไม่ดี จึงควรชะลอลงทุนกลุ่มแบงก์ก่อน และให้ไปเน้นลงทุนกลุ่มสื่อสาร, เกษตร และอาหารแทน เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 1/63 จะออกมาแข็งแกร่ง
พร้อมให้แนวรับ 1,230-1,220 จุด ส่วนแนวต้าน 1,250 จุด