หุ้นปิดเช้าลบ 1.83 จุด เผชิญแรงขายทำกำไรจาก Sentiment ต่างประเทศ วิตกการแพร่ระบาดไวรัสโควิดกดดัน ศก.โลก แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดคงจะแกว่งตัวในกรอบ โดยมีแนวต้าน 1,250 จุด ส่วนแนวรับ 1,220 จุด ซึ่งไม่ควรหลุด หากไม่หลุดดัชนีมีโอกาสแกว่ง Sideway ถึง Sideway up แต่หากหลุดก็มีโอกาสลงไปทดสอบระดับ 1,200 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนค่อนข้างมาก ในช่วงต้นภาคเช้าดัชนีฯ ดีดตัวขึ้นได้ตอบรับราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวขึ้นหลังผลประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน และชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) บรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิต แต่ในเวลาต่อมาก็เจอแรงขายทำกำไรจาก Sentiment ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้อิงทางลบมากกว่าบวก และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็อิงแดนลบด้วย จากความไม่แน่นอนการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 กดดันภาพเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในไทย ที่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันดูดีขึ้น แต่ก็ต้องรอดูว่าจะดีอย่างต่อเนื่องหรือไม่ และให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 1/63 จะเริ่มออกมาในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจากการ Preview งบฯ กลุ่มแบงก์ไตรมาส 1/63 คาดว่าจะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบ yoy แต่เมื่อเทียบ qoq จะดีขึ้น แต่หากมองไปข้างหน้าภาพการเติบโตของกลุ่มแบงก์จะไม่ดีเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,226.20 จุด ลดลง 1.83 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.15% มูลค่าซื้อขายราว 28,592 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดากล่าวว่า ตลาดฯ คงจะแกว่งตัวในกรอบ โดยมีแนวต้าน 1,250 จุด ส่วนแนวรับ 1.220 จุด ซึ่งไม่ควรหลุด หากไม่หลุดดัชนีฯ มีโอกาสแกว่ง Sideway ถึง Sideway up แต่หากหลุดก็มีโอกาสลงไปทดสอบระดับ 1,200 จุด