xs
xsm
sm
md
lg

"ชาญกฤช" คาดมีคน 15 ล้านรายตกเกณฑ์ "เราไม่ทิ้งกัน" "ออมสิน-ธ.ก.ส." เตรียมรับลงทะเบียนขอกู้ฉุกเฉิน 15 เม.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ชาญกฤช เดชวิทักษ์" เผยจะมีผู้เดือดร้อนและหลุดเกณฑ์พิจารณาคุณสมบัติผู้ได้รับเงินชดเชยการว่างงานจาก "คลัง" เดือนละ 5 พันบาท เป็นเวลา 3 เดือน ราว 15 ล้านราย จะขอใช้บริการเงินกู้ฉุกเฉินจาก "ออมสิน-ธ.ก.ส." ที่กำลังจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 15 เม.ย.63 โดยผู้กู้ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป มีสัญชาติไทย ประกอบอาชีพอิสระ มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อเดือน การกู้ได้โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน พร้อมเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อและให้ข้อมูลเลขที่บัตรประชาชน ข้อมูลการเงิน รหัสผ่าน และรหัส OTP แก่บุคคลอื่นผ่านทางโทรศัพท์และสื่อโซเชียลเด็ดขาด

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการสนับสนุนสินเชื่อฉุกเฉิน สำหรับช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 วงเงินกู้สูงสุด 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.10% ผ่อนชำระนาน 24 เดือน ปลอดชำระเงิน 6 เดือนแรก ภายใต้งบประมาณ 40,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีประชาชนซึ่งเดือดร้อนและหลุดจากเกณฑ์รับเงินเยียวยา 5,000 บาท เข้าใช้บริการราว 15 ล้านคน เนื่องจากขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิเงินเยียวยากว่า 24 ล้านคน และโควตาผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยาทั้ง 2 ระยะ มี 9 ล้านคน

ขณะนี้ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งรับผิดชอบโครงการนี้ มีความพร้อมให้บริการประชาชนที่เดือดร้อนแล้ว โดยทั้ง 2 ธนาคารจะเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์วันที่ ‪15 เม.ย.2563‬ เป็นต้นไป ธนาคารออมสิน ปล่อยกู้ภายใต้กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท และจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ‪www.gsb.or.th‬ เพื่อให้ผู้เดือดร้อนกรอกข้อมูลส่วนตัว และ หากผ่านจะมีเอสเอ็มเอส แจ้งเตือนลูกค้าที่ได้รับอนุมัติวงเงิน

เช่นเดียวกับ ธ.ก.ส. ที่จะปล่อยกู้ภายใต้กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน LINE ID ของธนาคารฯ ชื่อว่า @baacfamily เท่านั้น หรือสแกนคิวอาร์โค้ด กรอกรายละเอียด และรอนัดหมายจากธนาคารผ่านเอสเอ็มเอส และเริ่มทำสัญญากู้เงินตั้งแต่วันที่ ‪7 พ.ค.2563‬ หลังจากนั้นธนาคารจะแจ้งการโอนเงินเข้าบัญชีผ่านเอสเอ็มเอส

โดยคุณสมบัติของผู้กู้คือ อายุ 20 ปีขึ้นไป มีสัญชาติไทย ไม่ต้องมีหลักประกัน มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้าแม่ค้า คนขับรถแท็กซี่ มัคคุเทศก์ ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 มีที่อยู่อาศัยแน่นอน สามารถติดต่อได้ และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาชำระคืนรวมกันไม่เกิน 70 ปี และสิ้นสุดโครงการคือวันที่ ‪30 เม.ย.2563‬

นายชาญกฤช ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เริ่มมีพวกมิจฉาชีพอาศัยจังหวะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนแฝงตัวทักไลน์/เฟซบุ๊ก หลอกถามข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขที่บัญชีเงินฝาก เลขบัตรประชาชน รหัสผ่าน และรหัสผ่าน OTP ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนอย่าให้ข้อมูลทางด้านการเงินแก่บุคคลอื่นผ่านทางโทรศัพท์และสื่อโซเชียลเด็ดขาด เนื่องจากอาจจะเกิดความเสียหายทางการเงินตามมา

ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีโครงการช่วยเหลือต่างๆ ที่ทั้งธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินได้ร่วมกันช่วยเหลือเพื่อลดภาระหนี้ให้แก่ประชาชนผู้เดือดร้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการเยียวยาเงินชดเชย 5,000 บาท สินเชื่อฉุกเฉิน โครงการพักต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติ 3 เดือน

โดยล่าสุด ธนาคารออมสินโดนปลอมเพจเฟซบุ๊ก และไลน์ GSB Society ตนจึงต้องการอยากให้ประชาชนสังเกตไลน์ GSB Society ของจริงนั้น จะต้องมีโล่สีเขียว (พื้นเขียวมีดาวห้าแฉกตรงกลาง) แสดงการเป็นแอ็กเคานต์พรีเมียม ซึ่งได้รับการรับรองจากบริษัทไลน์ (ไทยแลนด์) วางไว้ด้านหน้าตัวอักษรคำว่า GSB หรือหากเกิดความไม่มั่นใจให้สอบถามไปที่ call center ของแต่ละธนาคารแต่ละแห่งจะดีที่สุด

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินหันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสาขา ตั้งแต่การเปิดบัญชี ไปจนถึงการยื่นเรื่องขอสินเชื่อ รวมถึงการขอพักชำระหนี้ ภายหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดให้ธนาคารพาณิชย์เริ่มทดสอบการให้บริการเปิดบัญชีเงินฝากผ่านช่องทางดิจิทัล โดยใช้การพิสูจน์และยืนยันตัวตนข้ามธนาคารผ่านแพลตฟอร์ม เนชันแนลดิจิทัล ไอดี (National Digital ID หรือ NDID) ในวงจำกัด ภายใต้ Regulatory Sandbox ของ ธปท. ซึ่งช่วยให้ประชาชนสามารถเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารแห่งใหม่ได้ผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน โดยใช้การพิสูจน์และยืนยันตัวตนจากธนาคารที่ตนเองเคยมีบัญชีเงินฝากด้วยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition)

โดย 8 สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) ได้เปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกช่องทาง เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19

เช่น เพจ Facebook ซึ่งครอบคลุมทุกสถาบันการเงิน LINE@,QR CODE website การเปิดบัญชีออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร การใช้แอปพลิเคชัน LINE ขอสินเชื่อฉุกเฉิน การกรอกข้อมูลสมัครสินเชื่อ และการยื่นเรื่องพักชำระหนี้ ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร นอกจากนี้ ยังมี call center ไว้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ครอบคลุมสินเชื่อบ้าน ธุรกิจ SMEs สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อเช่าซื้อ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากและรวดเร็วที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น