xs
xsm
sm
md
lg

"ธพว." พักชำระหนี้ลูกหนี้ทุกกลุ่มโดยอัตโนมัติ 3 เดือน ลดดอกเบี้ย 1% นาน 1 ปี ให้ธุรกิจท่องเที่ยวใน 22 จังหวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธพว. ช่วยลูกค้าบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ออกมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นอัตโนมัติให้ทุกราย 3 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ย 1% นาน 1 ปี ให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยวใน 22 จังหวัดหลักที่ได้รับผลกระทบรุนแรง และไม่ได้อยู่ในช่วงคิดอัตราดอกเบี้ยซอฟต์โลน กำหนดมีผลตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป

น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นในวงกว้าง ธพว.ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ มีความห่วงใย และตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทางธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม สอดคล้องต่อนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย

ดังนั้น ธพว. ได้ดำเนินมาตรการพักชำระเงินหนี้เงินต้นให้แก่ “ลูกค้าเงินกู้ทุกราย” ที่มีสถานะชำระปกติจนถึงที่มีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป คงเหลือชำระเฉพาะดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนเท่านั้น ซึ่งลูกค้าที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวจะได้รับสิทธิโดยอัตโนมัติทันที ไม่ต้องแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการ หรือลงทะเบียนใดๆ ทั้งสิ้น และหากลูกค้าท่านใดต้องการชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่เคยได้รับสามารถชำระได้ตามปกติ

ทั้งนี้ ลูกค้าสบายใจได้ว่า ภาระการชำระหนี้เงินต้นที่พักชำระไว้ ธนาคารจะนำยอดดังกล่าวไปชำระรวมกับงวดสุดท้าย รวมถึงความช่วยเหลือดังกล่าวไม่ถือเป็นการปรับโครงสร้างหนี้และไม่ถือเป็นเหตุแห่งการผิดสัญญาเงื่อนไขการชำระหนี้แต่อย่างใด และไม่มีผลต่อข้อมูลเครดิตด้วยเช่นกัน

ส่วนลูกค้าที่ได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการลดผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 จาก ธพว.ไปแล้ว ที่มีเงื่อนไขพักชำระเงินต้นเกินกว่า 3 เดือน จะยังคงได้รับสิทธิในการชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่ได้อนุมัติไว้

นอกจากนั้น ธพว. ยังช่วย “ลด” อัตราดอกเบี้ยลง 1% เป็นเวลา 1 ปี สำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบด้วย ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจห้องพัก ธุรกิจสปา ธุรกิจร้านอาหาร/ภัตตาคาร ธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ และบริการขนส่งนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบทางตรงใน 22 จังหวัดหลักตามข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ ระยอง นครราชสีมา กาญจนบุรี เพชรบุรี กระบี่ พระนครศรีอยุธยา สงขลา สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ ขอนแก่น พังงา และสระบุรี โดยสามารถเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม และเป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในช่วงคิดอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ (Soft Loan)


กำลังโหลดความคิดเห็น