บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) รับวิกฤตสงครามน้ำมัน การแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ภัยแล้ง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ล่าช้า ทำเศรษฐกิจและยอดขายไตรมาส 1/63 ชะลอช่วงสั้น แต่มั่นใจ EBITDA เป็นไปตามเป้า เหตุธุรกิจโรงไฟฟ้าและกาวยังคงมียอดขายต่อเนื่อง ประกอบกับสินค้าส่วนใหญ่มีมาร์จิ้นที่ดี พร้อมส่งสัญญาณเน้นลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชน และการลงทุนใน สปป.ลาว เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “ไวรัสโคโรนา 2019” หรือ “โควิด-19” ที่เริ่มระบาดตั้งแต่ในช่วงเดือนมกราคม 2563 จนถึงปัจจุบันนั้นขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจที่จะฉุดให้ตัวเลข GDP มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นผลพวงของลูกโซ่จะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงต้องจับตามองผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทยว่ามีความพร้อมในการประเมินสถานการณ์และการใช้แผนรองรับเหตุการณ์อย่างไรสำหรับวิกฤตที่เกิดขึ้นครั้งนี้
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในปัจจุบันที่ยังไม่สามารถคลี่คลายได้ภายในระยะเวลาอันใกล้ บริษัทฯ จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องความปลอดภัยเรื่องสุขภาพของบุคลากรภายในองค์กร โดยได้มีแนวทางปฏิบัติต่างๆ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งการเตรียมแผน BCP และได้ดำเนินการตามระดับความจำเป็นไว้แล้ว เช่น หากมีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น บริษัทฯ พิจารณาให้พนักงานบางส่วนสามารถ “ทำงานที่บ้าน” หรือ Work from Home เพื่อลดความเสี่ยงให้กับพนักงาน รวมไปถึงการงดการประชุม สัมมนา และงดการเดินทางไปต่างประเทศ อีกทั้งได้มีการนำเอาเทคโนโลยีในการสื่อสารใหม่ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำงานมากขึ้น
การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 กระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการอย่างหนัก ทำให้การบริโภคในประเทศหดตัว ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ดังนั้นเชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจครึ่งแรกของปี 2563 อาจทำให้แนวโน้มตัวเลข GDP มีโอกาสติดลบ ซึ่งเกิดจากปัจจัยเชิงลบต่างๆ เช่น สถานการณ์สงครามน้ำมันซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย, การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19, ปัญหาภัยแล้ง รวมถึงความล่าช้าของ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ที่ทำให้การเบิกจ่ายล่าช้าออกไป การลงทุนในโครงการต่างๆ ก็ต้องเลื่อนออกไปด้วย
ส่วนภาพรวมของธุรกิจ UAC นั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกลบอล ประเมินว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 อาจมีการชะลอตัวของยอดขาย เนื่องจากธุรกิจ Trading มีการชะลอลงบ้างตามสถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบจากราคาน้ำมัน แต่ทั้งนี้บริษัทฯ ยังพยายามรักษาระดับของกำไร (bottom line) ให้ได้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกัน ในส่วนของกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ มีมาร์จิ้นในระดับสูง
“หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยอมรับว่าการติดต่อระหว่างลูกค้า กับ Suppliers อาจจะมีติดขัดบ้าง แต่ก็เป็นพียงแค่บางส่วน เพราะโดยรวมแล้วถือว่ายังดำเนินธุรกิจได้ปกติ ไม่ถึงกับมีปัญหาความล่าช้าในเรื่องการของนำเข้าส่งและออกของสินค้าต่างประเทศแต่อย่างใด แต่ก็มีความกังวลเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอยู่บ้าง”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม Manufacturing ประเภทโรงไฟฟ้า และโรงงานกาวยังคงมียอดขายปกติตามเป้าหมาย เพราะธุรกิจดังกล่าวถือเป็นสินค้าในกลุ่มที่มีความต้องการเพื่อการอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวัน อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจพลังงานโดยเฉพาะโรงไฟฟ้าชุมชุน และการลงทุนใน สปป.ลาวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า UAC จะสามารถขยายการเติบโตในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่องในอนาคต