กรุงไทย-ศาลฯ หนุนยื่นคำฟ้องผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

สำนักงานศาลยุติธรรมจับมือธนาคารกรุงไทย สนับสนุนใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ในการยื่นคำฟ้องผ่าน e-filing Version 3 เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และสามารถติดตามทุกขั้นตอนด้วยตนเอง ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญช่วยลดความเสี่ยงระหว่างเดินทางและพบปะบุคคลต่างๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB)เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทย และสำนักงานศาลยุติธรรมได้ร่วมกันพัฒนาระบบการยื่นคำฟ้องผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-filing version 3) ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ทนายความทั่วประเทศ สามารถยื่นคำฟ้องผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ทางเว็บไซต์ www.efiling3.coj.go.th และจำเลยสามารถยื่นคำให้การขอคัดถ่ายและดูเอกสารในสำนวนคดี รวมทั้งสามารถติดตามเอกสารได้ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถติดตามผลคดีผ่านระบบ Tracking System ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการเดินทางและพบปะติดต่อกับบุคคลในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด และที่สำคัญสามารถทำด้วยตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา

"ธนาคารกรุงไทย พร้อมสนับสนุนสำนักงานศาลยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญ โดยเป็น 1 ใน 5 Ecosystems ของธนาคาร ทั้งในการพัฒนา Digital Platform การให้บริการด้านการเงิน รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการชำระค่าธรรมเนียมศาล ให้แก่ผู้ใช้บริการระบบงาน e-Filing Version 3 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง"

นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมกล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในส่วนของศาลยุติธรรม สำนักส่งเสริมงานตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรมได้จัดทำข้อมูลประชาสัมพันธ์ให้คู่ความ และประชาชนที่จะต้องติดต่อราชการศาลเกี่ยวกับงานคดี ด้วยการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการพัฒนา D-Court มาช่วยเหลือประชาชน เพื่อลดการเดินทางมาศาล ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้ออีกทางหนึ่ง เช่น แนวทางการไกล่เกลี่ยออนไลน์ การประชุมทางไกลผ่านจอภาพ หรือวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ (VDO/Web Conference) การสืบพยาน และอ่านคำพิพากษา การผลัดฟ้อง ฝากขังไปยังเรือนจำ และยังสามารถติดตามสถานะของคดีได้ผ่านระบบติดตามสำนวน หรือ Tracking system รวมทั้งการขอรับไฟล์คำพิพากษารูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถดำเนินการได้ใน 10 วัน นับแต่การอ่านคำพิพากษา การยื่นฟ้องแพ่ง ส่งคำให้การคดีแพ่งออนไลน์ การติดตามสำนวน รวมถึงคัดถ่ายคำพิพากษาผ่านระบบ e-Filing Version 3 จึงขอเชิญชวนทนายความและคู่ความใช้บริการผ่านระบบดังกล่าว

"หลังจากที่สำนักงานศาลยุติธรรม และธนาคารกรุงไทย ได้ร่วมกันจัดอบรมให้แก่ทนายความ เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการยื่นเอกสารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-filing Version 3) ส่งผลให้มีทนายความทั่วประเทศขึ้นทะเบียนในระบบแล้ว จำนวน 2,955 คน และมีผู้ใช้บริการประมาณ 16,000 คดี ซึ่งนับว่าตอบโจทย์ในการอำนวยความยุติธรรม ความรวดเร็ว ทันสมัย และเป็นตามหลักสากล"