MGR Online - ศาลยุติธรรมจับมือแบงก์กรุงไทยพัฒนาระบบศาลดิจิทัล สู่ e-Filing Version 3 ทนายความสามารถยื่นฟ้องคดีแพ่งออนไลน์ไม่ต้องมาศาล ผู้พิพากษารับคำร้องสะดวก เพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการยุติธรรม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 12 อาคารสำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ร่วมแถลงข่าวการยกระดับระบบศาลดิจิทัล สู่ระบบการยื่นคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) Version 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณาพิพากษาคดี และความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยทนายความทั่วประเทศ สามารถยื่นคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์ในคดีแพ่งผ่านทางเว็บไซต์ ไม่ต้องเดินทางไปยื่นฟ้องที่ศาล ขณะที่จำเลยสามารถยื่นคำให้การผ่านระบบได้เช่นเดียวกัน ด้านผู้พิพากษาสามารถรับฟ้องทางอิเล็กทรอนิกส์ หากคดีไม่ยุ่งยากไม่ต้องทำสำนวนกระดาษ ศาลไม่ต้องหาพื้นที่จัดเก็บสำนวนที่มีเพิ่มมากขึ้น และคู่ความยังสามารถติดตามคดีได้ตลอด 24 ชั่วโมง สนับสนุนอำนวยความยุติธรรมให้มีความรวดเร็ว สะดวก และเป็นสากล
นายสราวุธเปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารกรุงไทยและสำนักงานศาลยุติธรรมได้ลงนามความร่วมมือในการพัฒนาระบบศาลดิจิทัล เพื่อส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณาพิพากษาคดี การบริหารจัดการ และการให้บริการประชาชน เชื่อมฐานข้อมูลในกระบวนการยุติธรรม เพิ่มความสะดวกสบายในการให้บริการประชาชน โดยร่วมกันพัฒนาและขยายผลระบบการยื่นและส่งคำคู่ความและเอกสารโดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ให้ครอบคลุมศาลชั้นต้นทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ศาลที่พิจารณาคดีแพ่ง 148 แห่งจาก 157 แห่งทั่วประเทศได้เข้าร่วมโครงการ มีผู้ใช้บริการกว่า 3,267 คดีแล้ว
“ที่ผ่านมาธนาคารและสำนักงานศาลยุติธรรมได้นำระบบเทคโนโลยีมาใช้ในระบบงานต่างๆ เพื่อยกระดับระบบศาลดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยร่วมพัฒนาระบบ e-Filing อย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ได้เข้าสู่ Version 3 ด้วยการนำระบบการยื่นคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณาคดีความมากยิ่งขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาให้กับทนายความทั่วประเทศที่ขึ้นทะเบียนในระบบจำนวน 2,808 คน ซึ่งแต่ละปีต้องยื่นฟ้อง 1.2 ล้านคดี หากมาใช้ระบบ e-Filing จำนวนมากจะช่วยให้ศาลสามารถ ลดพื้นที่การจัดเก็บสำนวนกระดาษที่ศาลได้ขึ้นอีกมาก”
นายผยงกล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ พร้อมที่จะสนับสนุนสำนักงานศาลยุติธรรม ในแง่การพัฒนาการให้บริการทางการเงินด้วยการนำดิจิทัลแบงกิ้งเข้ามาอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการระบบ e-Filing Version 3 นี้ สามารถชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ข้อดีที่สำคัญของ ระบบ e-Filing Version 3 คือ ทนายความสามารถยื่นคำฟ้องทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านทางเว็บไซต์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องยื่นคำฟ้อง ทางด้านจำเลยสามารถยื่นคำให้การได้ ขอคัดถ่ายและดูเอกสารในสำนวนคดี รวมทั้งสามารถติดตามเอกสารได้ตลอดเวลา ส่วนเจ้าหน้าที่ศาลสามารถตรวจสอบเอกสารยื่นคำฟ้อง คำร้อง พร้อมให้ความเห็นและส่งงานให้ผู้พิพากษาได้ ซึ่งผู้พิพากษาสามารถประทับรับฟ้องได้
“ระบบ e-Filing Version 3 ปัจจุบันสามารถรองรับการพิจารณาคดีในส่วนของคดีแพ่ง โดยทางสำนักงานศาลยุติธรรมมีแผนขยายไปยังการพิจารณาคดีอาญา และขยายการให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทางธนาคารพร้อมจะสนับสนุนสำนักงานศาลยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง”
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าสู่เว็บไซต์ ระบบ e-Filing Version 3 ได้ที่ https://efiling3.coj.go.th/eFiling/