กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดทัพบุคลากรทุกระดับในองค์กร...เรียนรู้เรื่องดิจิทัลแบบเข้มข้น ก่อนก้าวเข้าสู่ผู้นำด้านการให้บริการด้วยอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบในปี 2564 โดยทุกฝ่ายพร้อมให้บริการออนไลน์ด้วยความถูกต้องและรวดเร็วด้วยคุณสมบัติสำคัญที่ต้องมี คือ ความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมสร้างสรรค์บริการใหม่เพื่อผู้ใช้งาน และไม่หยุดเรียนรู้เทคโนโลยี ตั้งเป้าหมายต่อไปสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะเพื่อสร้างประโยชน์ให้ภาคธุรกิจและประชาชนไม่สิ้นสุด
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ให้บริการธุรกิจผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมฯ หลายด้าน เช่น การจองชื่อนิติบุคคล การจัดตั้งนิติบุคคล (e-Registration) การนำส่งงบการเงิน (e-Filing) และบริการคลังข้อมูลนิติบุคคล (DBD Datawarehouse+) เป็นต้น โดยบริการเหล่านี้ได้รับความนิยมและช่วยก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบธุรกิจด้านการลดระยะเวลาติดต่อกับหน่วยงานราชการ ลดต้นทุนการจัดเตรียมเอกสาร และการใช้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือเพื่อประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจได้แบบแม่นยำ ส่งผลให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมฯ ได้รับความน่าเชื่อถือและรางวัลการันตีคุณภาพจากหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่สิ่งที่กล่าวมานี้จะเกิดขึ้นและปฏิวัติรูปแบบการให้บริการไปสู่อิเล็กทรอนิกส์ทั้งองค์กรไม่ได้เลย หากไม่มี ‘ทรัพยากรคน’ ที่พร้อมทั้งด้านความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
อธิบดีฯ กล่าวต่อว่า “การที่จะสร้างองค์กรให้เดินหน้าไปสู่องค์กรดิจิทัลตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2564 ว่า เป็นผู้ให้บริการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2564 และมุ่งมั่นพัฒนา SME ไทยให้ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรม จึงไม่ได้เป็นเพียงการพัฒนางานให้บริการแก่ภาคธุรกิจและประชาชนเท่านั้น แต่การพัฒนาคนในองค์กรก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน ดังนั้น ตลอดปี 2563 กรมฯ จึงเร่งจัดหลักสูตรเข้มข้นเพื่ออบรมสร้างความรู้เชิงลึก ปรับ Mind Set ของการทำงานในโลกยุคดิจิทัลและพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้แก่เจ้าหน้าที่ในองค์กรทุกระดับ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยี ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยทุกกลุ่มจะต้องพร้อมให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แก่ทุกภาคส่วนได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว”
สำหรับคุณสมบัติสำคัญที่บุคลากรจะต้องมีด้านเทคโนโลยีนับจากนี้ไป คือ ศักยภาพในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงได้อย่างเชี่ยวชาญ สามารถปรับใช้ได้กับการทำงาน ไปจนถึงนำมาสร้างสรรค์เพื่อต่อยอดพัฒนางานบริการของกรมฯ ให้ทันต่อความต้องการของผู้ใช้งาน นอกจากนี้จะต้องพร้อมเรียนรู้ตลอดเวลาเพื่อที่จะขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าต่อไปได้ โดยที่ผ่านมากรมฯ ได้กระตุ้นให้บุคลากรตระหนักถึงความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาของเทคโนโลยีมาโดยตลอด แต่นับจากปี 2564 เป็นต้นไปกรมฯ ตั้งเป้าหมายที่จะก้าวสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะ และเป็นผู้นำด้านดิจิทัล (Digital Leadership) ของหน่วยงานภาครัฐในประเทศไทยต่อไป”
“การเป็นองค์กรอัจฉริยะของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะสร้างประโยชน์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดให้แก่ภาคธุรกิจและประชาชนที่จะได้รับงานบริการที่เป็นเลิศด้วยนวัตกรรมทำให้การจดทะเบียนธุรกิจผ่านทางออนไลน์รวดเร็ว และง่ายยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อการขยายตัวของธุรกิจในประเทศไทย อีกทั้งธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐจะสามารถใช้บริการคลังข้อมูลนิติบุคคลขนาดใหญ่ของประเทศในการวิเคราะห์ธุรกิจและกำหนดนโยบายการส่งเสริมธุรกิจของประเทศได้เชิงลึกยิ่งขึ้น” อธิบดีฯ กล่าวในท้ายที่สุด
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *