ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Circuit Breaker ชั่วคราว เพื่อลดความผันผวน และชะลอการปรับตัวลงของดัชนีหุ้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 และไม่เกิน 30 มิถุนายน 2563
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ตลท.ได้ปรับปรุงเกณฑ์ short selling ให้ทำได้เฉพาะในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายล่าสุด (uptick) แต่ภาวะการซื้อขายยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงปรับปรุงเกณฑ์การกำหนดราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) และเกณฑ์การหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ (Circuit Breaker) เป็นการชั่วคราวจนกว่าตลาดจะเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อลดความผันผวนของภาวะตลาดในปัจจุบัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 และไม่เกิน 30 มิถุนายน 2563
สำหรับการปรับปรุงเกณฑ์ Ceiling & Floor สำหรับทั้ง SET, mai และ TFEX นั้น การซื้อขายใน SET, mai ทั้งหุ้น หน่วยลงทุน วอร์แรนต์ DW ETF TSR DR เกณฑ์ Ceiling & Floor เป็น 15% จากเดิม 30% ส่วนกระดานต่างประเทศ Ceiling & Floor 30% จากเดิม 60% ส่วนตลาด TFEX เกณฑ์ Ceiling & Floor เป็น 15% จากเดิม 30%
นอกจากนี้ มีการปรับเกณฑ์พักการซื้อขายหุ้น (Circuit Breaker ) จากเดิมที่ 2 ระดับคือ ดัชนีหุ้นไทยลดลง 10% และ 20% หยุดพักการซื้อขาย มาเป็น 3 ระดับ คือเมื่อดัชนีหุ้นไทยลดลง 8% หยุดซื้อขาย 30 นาที หากดัชนีหุ้นไทยลดลง 15% หยุดการซื้อขาย 30 นาที และเมื่อดัชนีหุ้นไทยลดลง 20% หยุดการซื้อขาย 60 นาที และหลังจากการทำงานระดับที่ 3 ของ Circuit Breaker แล้ว จะเปิดให้ซื้อขายต่อไปจนถึงเวลาปิดทำการปกติของรอบการซื้อขายนั้น
นายภากร กล่าวว่า มาตรการนี้จะช่วยทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงช้าลง ไม่ใช่การปิดตลาด และไม่ใช่การปิดการซื้อขาย ตลาดหลักทรัพย์ต้องช่วยให้ตลาดหุ้นเกิดการขัดข้องน้อยที่สุด ช่วงนี้เป็นภาวะที่ต้องช่วยกันประคองเพื่อรอให้สถานการณ์โควิด-19 ที่เป็นปัจจัยที่กระทบไปทั่วโลกดีขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อลดความเสี่ยงโรคโควิด-19 จึงขอความร่วมมือให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นผ่านทาง Facebook Live โดยให้ผู้ถือหุ้นมอบฉันทะให้แก่กรรมการอิสระเข้าประชุมและโหวตแทน เพื่อให้ครบองค์ประชุมตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
