หุ้นไทยร่วงแรงตั้งแต่เปิดตลาด ดิ่งสุดที่ 1,131.70 จุด หรือลดไปกว่า 118 จุด หรือกว่า 9% ล่าสุดปิดภาคเช้าที่ 1,140.05 จุด ลดลง 109.84 จุด ต่ำสุดในรอบประมาณ 7 ปี 8 เดือน นับจากจุดต่ำสุดที่ 1,099 จุด เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2555
หุ้นไทยร่วงแรงตั้งแต่เปิดตลาด และดิ่งสุดที่ 1,131.70 จุด หรือลดไปกว่า 118 จุด กว่า 9% ซึ่งดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,140.05 จุด ลดลง 109.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,837 ล้านบาท เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นอื่น หลังหุ้นดาวโจนส์ร่วงแรงกว่า 1,400 จุด โดยในเวลา 12.30 น.วันนี้ ผู้จัดการตลาดหุ้นจะแถลงภาวะตลาดหุ้นที่ตกหนักด้วย
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า องค์การอนามัยโลก WHO แถลงการณ์โควิด-19 เข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดไปทั่วโลก จะทำให้มีการปรับลดกำไรบริษัทจดทะเบียนลงจาก 92 บาท/หุ้น เหลือ 80 บาท/หุ้น และลดเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 2563 เหลือ 1,360 จุด โดยดัชนีมีแนวรับที่ 1,070 จุด
ดังนั้น นักลงทุนต้องปรับพอร์ตลงทุนใหม่ พร้อมเตือนขณะนี้ไม่เหมาะกับการเก็งกำไร โดยหากดัชนีปรับลงมาให้ทยอยเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มค้าปลีก อาหาร และไอซีที คาดเมษายนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยน่าจะดีขึ้นบ้าง เพราะจะมีเม็ดเงินจากกองทุนรวมเพื่อการออม หรือ SSF ร่วม 13,000 ล้านบาท เข้ามาช่วยพยุงตลาดบ้าง
ด้านนายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ร่วงแรงตามตลาดหุ้นทั่วโลก มองว่าเป็นการ Panic จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่กระจายไปทั่วโลกอย่างเร่งตัวขึ้น จนองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ว่าไวรัสโควิด-19 เข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้วิตกผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ ยังรับผลกระทบจากราคาน้ำมันร่วงลง ทำให้วิตกความเสี่ยงจากหนี้เสียที่จะมีสูงขึ้นได้ เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตน้ำมันมีต้นทุนสูงกว่าซาอุดีอาระเบีย และส่วนใหญ่ก็จะมีการออกหุ้นกู้กันหากค้าขายไม่ดีก็วิตกจะไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ ทำให้หนี้เสียมีโอกาสที่จะสูงขึ้น ซึ่งก็เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจด้วย
สำหรับความคาดหวังจากการแถลงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่มีขึ้นในช่วงเช้านี้ตามเวลาไทยก็มีอันต้องผิดหวังเพราะไม่ได้พูดถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่คาดหวังกันไว้เลย ทำให้นักลงทุนตัดสินใจขายหุ้นออกมาก่อน
"ตลาดบ้านเราร่วงแรงส่วนหนึ่งเป็นผลจาก Block Trade ที่ถ่วงตลาดจากที่ถูกบังคับขาย และยิ่งขายก็ยิ่งทำให้ดัชนีฯ ปรับตัวลงไป จนดัชนีฯ รูดลงมาแถว 1,146 จุด ต่ำสุดในรอบประมาณ 7 ปี 8 เดือน นับจากจุดต่ำสุดที่ 1,099 จุด เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2555"
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายถนอมศักดิ์กล่าวว่า ตลาดฯ ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้อีก พร้อมให้แนวรับ 1,136-1,113 จุด ส่วนแนวต้าน 1,160 จุด