หุ้นไทยปิดบวก 15.31 จุด ตามต่างประเทศ โดยการฟื้นตัวเป็นผลจากความคาดหวังการอัดฉีดสภาพคล่องจากเฟด การปรับลด ดบ.ลงอีกครั้ง และนโยบายด้านภาษี ขณะที่ไทยราคาหุ้นหลายตัวปรับฐานไปแล้ว 25-30% ดังนั้น Valuation จึงน่าสนใจลงทุนในแง่ปัจจัยพื้นฐาน แต่จะให้ดีต้องลุ้นให้ดัชนีฯ กลับมายืนเหนือระดับ 1,300 จุด เพื่อให้มีโอกาสฟื้นตัวต่อไปได้
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (10 มี.ค.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,271.25 จุด เพิ่มขึ้น 15.31 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.22% มูลค่าการซื้อขาย 74,686.23 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวกตลอดทั้งวัน ทำระดับสูงสุด 1,285.65 จุด และต่ำสุด 1,258.70 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นเอเชียบวกประมาณ 1-2% และตลาดยุโรปบวกเฉลี่ย 2-3% การฟื้นตัวเป็นผลจากความคาดหวังการอัดฉีดสภาพคล่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีการประชุมวันที่ 17-18 มีนาคมนี้ และปรับลดดอกเบี้ยลงอีกครั้ง และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ก็จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลดภาษีเงินได้
ทั้งนี้ มอง Downside ตลาดฯ รอบนี้ไว้ที่ 1,250 จุด มีโอกาสต่ำกว่านี้แต่ไม่มาก โดยรอบนี้ความเสี่ยงเพิ่มมาจากกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันร่วงลงไปแรง แต่ยังมีหุ้นได้ประโยชน์และราคาหุ้นหลายตัวปรับฐานไปแล้ว 25-30% ดังนั้น Valuation จึงน่าสนใจลงทุนในแง่ปัจจัยพื้นฐาน แต่จะให้ดีต้องลุ้นให้ดัชนีฯ กลับมายืนเหนือระดับ 1,300 จุด เพื่อให้มีโอกาสฟื้นตัวต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ตลาดฯ ปรับตัวขึ้นมาจากความคาดหวังนโยบายการเงิน ดังนั้น การปรับขึ้นอาจเป็นแค่ระยะสั้น เพราะมองว่าผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ส่วนใหญ่ชะลอตัวพอควร พร้อมแนะให้ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 12 มีนาคมนี้ มีโอกาสหนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 3,246.62 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 153.89 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 7,237.94 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 3,837.43 ล้านบาท