‘บมจ.พริมา มารีน’ หรือ (“PRM”) โชว์ผลงานปี 62 สุดหรู มีกำไรสุทธิ 1,122.5 ล้านบาท เติบโต 50.4% จากพอร์ตกองเรือแข็งแกร่ง รับดีมานด์ลูกค้าพุ่งทั้งกลุ่มเรือขนส่งภายในประเทศและกลุ่มเรือ FSU ดันการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลอีก 0.14 บาทต่อหุ้น รวมเงินปันผลประจำปี 2562 ทั้งสิ้น 0.20 บาทต่อหุ้น รวมทั้งสิ้น 500 ล้านบาท เตรียมชงผู้ถือหุ้นอนุมัติในงาน AGM ส่วนเป้าปี 63 คาดเติบโต 10-15% หลังกลุ่มเรือ FSU ทำรายได้เต็มปี
นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ “PRM” ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีเหลวทางเรืออย่างครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2562 ว่าบริษัทฯ ทำรายได้รวม 5,404.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,572.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,122.5 ล้านบาท เติบโต 50.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 746.4 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยการเติบโตมาจากแผนกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งของกองเรือ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการ โดยเพิ่มเรือขนส่งภายในประเทศจำนวน 6 ลำ และกลุ่มเรือ FSU 3 ลำ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2562 บริษัทฯ มีกองเรือรวมทั้งสิ้น 43 ลำ
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศและกลุ่มเรือ FSU มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากความต้องการใช้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมและกักเก็บน้ำมันเตากำมะถันต่ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพื่อรองรับข้อกำหนด IMO 2020 นอกจากนี้ การเพิ่มสัดส่วนการเข้าถือหุ้นใน Big Sea ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมอันดับ 2 ของประเทศเป็น 80% ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการดำเนินงานที่ดี จึงช่วยสนับสนุนให้ PRM ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการให้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมอันดับ 1 ของประเทศ
จากความสำเร็จในครั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2562 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท คิดเป็นเงิน 150 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทฯ คงเหลือจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำปี 2562 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.14 บาทต่อหุ้น โดยแบ่งเป็นการจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในอัตรา 0.038 บาทต่อหุ้น และจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (NON-BOI) ในอัตรา 0.102 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลจ่ายในครั้งนี้ทั้งสิ้น 350 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันอังคารที่ 5 พฤษภาคม 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม 2563 โดยจะเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 (AGM) เพื่อขอการอนุมัติต่อไป
ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชีฯ กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโต 10-15% ในปีนี้ จากแผนการเพิ่มเรืออีกอย่างน้อย 2 ลำ ได้แก่ เรือขนส่งภายในประเทศ 1 ลำ เพื่อให้บริการเพิ่มเติมแก่ลูกค้า และเรือ FSU อีก 1 ลำ เพื่อรองรับความต้องการกักเก็บน้ำมัน รวมถึงบริษัทฯ ในปี 2563 ยังจะรับรู้รายได้เต็มปีจากทุกกลุ่มธุรกิจ ทำให้ PRM สามารถเก็บเกี่ยวรายได้อย่างเต็มที่