สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ก.พ. 2563

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้ โดยล่าสุดเกาหลีใต้ยืนยันพบผู้เสียชีวิตรายแรก และญี่ปุ่นรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย อันเนื่องมาจากการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,219.98 จุด ลดลง 128.05 จุด หรือ -0.44% ขณะดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,373.23 จุด ลดลง 12.92 จุด หรือ -0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,750.96 จุด ลดลง 66.21 จุด หรือ -0.67%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ขณะที่รายงานวิจัยใหม่บ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสดังกล่าวสามารถติดต่อระหว่างกันได้มากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.86% ปิดที่ 430.19 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,062.30 จุด ลดลง 48.94 จุด หรือ -0.80%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,664.00 จุด ลดลง 125.00 จุด หรือ -0.91% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,436.64 จุด ลดลง 20.38 จุด หรือ -0.27%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการระบาดเพิ่มขึ้นของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 หลังจากมีรายงานว่าเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อดังกล่าวเพิ่มขึ้น และมีรายงานวิจัยใหม่ที่บ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสดังกล่าวอาจแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าที่คาดกันไว้ก่อนหน้านี้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,436.64 จุด ลดลง 20.38 จุด หรือ -0.27%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 53.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนมี.ค.ได้ครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.พ.

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 59.31 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) และทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8.70 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,620.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. 2556

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.8 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 18.319 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 25.5 ดอลลาร์ หรือ 2.54% ปิดที่ 979 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,573.90 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ซึ่งรวมถึงดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ที่ฟื้นตัวขึ้นในเดือนม.ค. ขณะที่สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ซบเซาลง

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0789 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0796 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2880 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2918 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6614 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6673 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.04 เยน จากระดับ 111.57 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3262 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3226 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.9840 ฟรังก์ จากระดับ 0.9843 ฟรังก์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 29,219.98 จุด ลดลง 128.05 จุด, -0.44%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,373.23 จุด ลดลง 12.92 จุด, -0.38%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 9,750.96 จุด ลดลง 66.21 จุด, -0.67%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,664.00 จุด ลดลง 125.00 จุด, -0.91%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,436.64 จุด ลดลง 20.38 จุด, -0.27%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,062.30 จุด ลดลง 48.94 จุด, -0.80%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 41,170.12 จุด ลดลง 152.88 จุด, -0.37%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,198.68 จุด ลดลง 15.03 จุด, -0.47%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,534.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด, +0.05%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,942.49 จุด เพิ่มขึ้น 13.70 จุด, +0.23%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,609.16 จุด ลดลง 46.65 จุด, -0.17%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,413.00 จุด เพิ่มขึ้น 16.06 จุด, +0.22%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,030.15 จุด เพิ่มขึ้น 54.75 จุด, +1.84%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,195.50 จุด ลดลง 14.84 จุด, -0.67%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 23,479.15 จุด เพิ่มขึ้น 78.45 จุด, +0.34%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 11,725.09 จุด ลดลง 33.75 จุด, -0.29%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,162.50 จุด เพิ่มขึ้น 17.90 จุด, +0.25%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,255.20 จุด เพิ่มขึ้น 17.80 จุด, +0.25%