หุ้นไทยปิดร่วง 14.30 จุด หนักกว่าภูมิภาค กังวลเศรษฐกิจไทยฟื้นช้า โดยวันนี้ รมว.คลัง คาดว่าเศรษฐกิจคงพื้นตัวในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.หากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย และการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 น่าจะเริ่มได้ในเดือน เม.ย.รวมทั้งแสดงความเห็นว่านักท่องเที่ยวจีนอาจยังไม่กลับมาในช่วงไตรมาส 2/63 ทำให้การฟื้นตัวเศรษฐกิจต้องยืดเวลาออกไป เนื่องจากไทยพึ่งพิงรายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยวมาก
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (20 ก.พ.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,491.24 จุด ลดลง 14.30 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.95% มูลค่าการซื้อขาย 75,546.15 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ดัชนีทำระดับสูงสุด 1,504.95 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,484.51 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงหนักกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ จากความกังวลเศรษฐกิจไทยชะลอตัว เนื่องจากหลายสำนักวิจัยปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไทยปีนี้ลงเฉลี่ยมาอยู่แถว 1.2-1.5% หลังสภาพัฒน์ฯ ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงไปลึกมาก และมองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดดอกเบี้ยอีกครั้ง 0.25% ในการประชุมเดือน มี.ค.และอาจจะปรับลดประมาณการ GDP ลงด้วย
นอกจากนั้น ยังมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้คงจะช้ากว่าเดิมที่เคยคาดไว้ โดยวันนี้นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง คาดว่าเศรษฐกิจคงพื้นตัวในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.หากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย และการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 น่าจะเริ่มได้ในเดือน เม.ย.รวมทั้งแสดงความเห็นว่านักท่องเที่ยวจีนอาจยังไม่กลับมาในช่วงไตรมาส 2/63 ทำให้การฟื้นตัวเศรษฐกิจต้องยืดเวลาออกไป เนื่องจากไทยพึ่งพิงรายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยวมาก รวมทั้งยอดส่งออกรถยนต์เดือน ม.ค.63 ก็ออกมาแย่กว่าคาดด้วย
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,717.40 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 3,498.15 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,396.77 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,616.02 ล้านบาท