บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI ชูวิชัน 50 ปีรุกทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล เตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชัน Car Buddy by GPI เวอร์ชันใหม่ ให้บริการสืบค้นข้อมูลศูนย์และอู่ซ่อมรถนำร่องพื้นที่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหลัก เพื่อเป็นช่องทางสร้างรายได้จากสปอนเซอร์ ด้านบอร์ดบริษัทฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2562 หุ้นละ 0.08 บาท หลังปีที่ผ่านมาทำรายได้จากการขายและบริการ 711.30 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 113.86 ล้านบาท
นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ผู้นำสร้างสรรค์การจัดกิจกรรมให้บริการข่าวสาร ข้อมูล สาระ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความบันเทิงที่น่าประทับใจ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ยานยนต์ เปิดเผยว่า ในโอกาสที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจครบ 50 ปี ได้กำหนดวิชันนำองค์กรก้าวสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน โดยการขยายธุรกิจบนแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อเพิ่มรายได้จากธุรกิจสื่อรูปแบบใหม่และพัฒนาธุรกิจรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนมองโอกาสขยายธุรกิจใหม่ที่จะสร้างรายได้ประจำหรือเป็นธุรกิจ New S-Curve เพื่อสร้างการเติบโตต่อไป
ล่าสุด GPI ร่วมมือกับบริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด พัฒนาแอปพลิเคชัน Car Buddy by GPI เวอร์ชันใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์บริการและอู่ซ่อมรถ จากเดิมเป็นแอปพลิเคชันเพื่อให้บริการลงทะเบียนเข้างานและหาข้อมูลโปรโมชันกิจกรรมการตลาดในงาน Bangkok International Motor Show โดยเริ่มต้นจากศูนย์บริการและอู่ซ่อมรถที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและจังหวัดหลัก ก่อนขยายฐานข้อมูลในจังหวัดอื่นๆ คาดว่าจะเปิดตัวแอปพลิเคชันโฉมใหม่ดังกล่าวได้ภายในเดือนมีนาคมนี้
“ปัจจุบันเรามีฐานสมาชิกที่ดาวน์โหลดแอปฯ แล้วกว่า 1 แสนราย ส่วนหนึ่งเป็นผู้เข้าชมงาน Bangkok International Motor Show เมื่อปีที่ผ่านมา โดยหลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชันโฉมใหม่แล้ว สมาชิกจะสามารถใช้งานฟังก์ชันใหม่ที่เราพัฒนาขึ้น ส่วนรายได้ของแอปพลิเคชันจะมาจากการหาสปอนเซอร์ที่สนใจทำการตลาดกับสมาชิกที่ใช้บริการแอปฯ ปัจจุบันได้เริ่มนำเสนอโปรดักต์ต่อผู้ประกอบการในแวดวงยานยนต์และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องเพื่อหาสปอนเซอร์แล้ว ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้จากธุรกิจสื่อรูปแบบใหม่แก่บริษัทฯ” นายปราจินกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GPI กล่าวต่อว่า ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2562 มีรายได้จากการขายและบริการ 719.33 ล้านบาท ลดลง 1.68% เทียบกับปี 2561 ที่มีรายได้จากการขายและบริการ 731.65 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 107.89 ล้านบาท ชะลอตัวจากปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 131.52 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ในช่วงลงทุนเพื่อขยายธุรกิจในไทยและต่างประเทศ เช่น การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล, การจัดงาน Yangon International Motor Show ในพม่า
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานปี 2562 ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลัง (กรกฎาคม-ธันวาคม 2562) อัตราหุ้นละ 0.08 บาท รวมเป็นเงิน 48 ล้านบาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 9 เมษายน 2563 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 เมษายน 2563 ซึ่งเมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2562 ที่อัตราหุ้นละ 0.10 บาท จะส่งผลให้บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลในปี 2562 รวม 0.18 บาทต่อหุ้น ตอกย้ำเป็นหุ้นปันผลโดดเด่น