แบงก์ชาติเตรียมปรับลดจีดีพีปี 63 โตต่ำกว่า 2.8% หลังไทยได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมแนะไทยควรถือโอกาสนี้เร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและแหล่งท่องเที่ยว
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุถึงภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2563 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด ซึ่งขณะนี้ตัวเลขยังไม่นิ่ง โดยจะมีการทบทวนสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและประเมินตัวเลขจีดีพีอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เดือนมีนาคม ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับประมาณการตัวเลขจีดีพีปี 2563 ลง จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 2.8% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ประเมินไว้ในช่วงเดือนธันวาคม 2562 ก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ตาม การผ่านร่างงบประมาณปี 2563 ถือว่าเป็นข่าวดี ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องเร่งเบิกจ่ายงบให้เข้าสู่ระบบโดยเร็วที่สุด รวมทั้งควรใช้จังหวะที่นักท่องเที่ยวลดลงพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นข้อจำกัดในการเดินทาง รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อให้เกิดการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
โดยวันนี้ (18 ก.พ.) ธปท. และธนาคารกลางกัมพูชาร่วมเปิดตัวนวัตกรรมด้านการชำระเงินผ่าน QR Payment ข้ามประเทศ เพื่อรองรับการชำระเงินรายย่อยระหว่างลูกค้าและร้านค้าของทั้ง 2 ประเทศ บริการดังกล่าวจะเริ่มให้บริการกับนักท่องเที่ยวกัมพูชาที่เดินทางมาประเทศไทยสามารถใช้ mobile banking application ของธนาคารกัมพูชาที่ร่วมให้บริการสแกน Thai QR Code ที่ร้านค้าในประเทศไทยได้ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวไทยจะสามารถใช้ mobile banking application ของธนาคารไทยที่ร่วมให้บริการสแกน QR Code ของกัมพูชาเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้าในประเทศกัมพูชา ซึ่งระบบดังกล่าวจะมีการตัดเงินแบบเรียลไทม์ตามเรตอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น ทั้งนี้ ไตรมาส 3 ธปท.เตรียมเปิดให้บริการระบบดังกล่าวร่วมกับสิงคโปร์ จากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีความร่วมมือในการให้บริการชำระเงินผ่าน QR Payment กับญี่ปุ่น และ สปป.ลาว แล้ว