วันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSF ได้แจ้งขอขยายเวลาการชำระหุ้นเพิ่มทุน จากเดิมระหว่างวันที่ 27 มกราคมถึง 7 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นระหว่างวันที่ 27 มกราคมถึง 21 กุมภาพันธ์ 2563 โดยอ้างว่า เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นมีเวลาศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจใช้สิทธิจองซื้อหุ้นใหม่
แต่การขยายเวลาชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ อาจเป็นการส่งสัญญาณว่า หุ้นเพิ่มทุนไม่ได้รับความสนใจจากผู้ถือหุ้นเดิมเท่าใดนัก และมีแนวโน้มว่า จะมีหุ้นใหม่เหลือจากการจำหน่ายจำนวนมาก ฝ่ายบริหารบริษัทที่ต้องการระดมทุน จึงซื้อโอกาส โดยขยายเวลาการเสนอขายหุ้น
คณะกรรมการ TSF มีมติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2562 ในการเพิ่มทุน จำนวน 27,083.03 ล้านหุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 4 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 2 สตางค์ จากราคาพาร์ 10 สตางค์
ถ้าหุ้นใหม่ขายได้หมด ฝ่ายบริหารบริษัทฯ จะมีเงินเข้ามาประมาณ 540 ล้านบาท
แต่ผู้ถือหุ้นกลุ่มไหนจะใส่เงินเข้ามาอีก เพราะฐานะของ TSF อยู่ในอาการร่อแร่ เข้าข่ายถูกเพิกถอนการเป็นบริษัทจดทะเบียน มูลค่าทางบัญชีติดลบ หุ้นถูกขึ้นเครื่องหมายเอสพี และไม่ส่งงบการเงินให้ตลาดหลักทรัพย์
ที่สำคัญ TSF ไม่มีเจ้าภาพแล้ว ผู้บริหารกลุ่มอภิจารี ก็ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่มีรายชื่อติด 10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 รายแรก โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้นมีผู้ถือหุ้นรายย่อย จำนวน 8,910 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 93.33%
การระดมทุนครั้งนี้จึงมีเป้าหมายที่จะดูดเงินจากผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งส่วนใหญ่คงสละสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน จนฝ่ายบริหารต้องขยายเวลาการชำระค่าหุ้น
ผู้ถือหุ้นเดิมที่สละสิทธิการจองซื้อ ไม่ต้องอธิบายเหตุผล เพราะ TSF มีปัญหามากมาย ผลประกอบการย่ำแย่ ขาดทุนต่อเนื่องหลายปี โดยมียอดขาดทุนสะสม 921 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ มูลค่าหุ้นทางบัญชีติดลบ และอยู่ในกลุ่มฟื้นฟูการดำเนินงาน เป็นบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในข่ายอาจถูกเพิกถอน
หุ้นถูกพักการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2562 และไม่ส่งงบการเงินตั้งแต่ปี 2561
ฐานะของ TSF เปราะบางมาก และการระดมเงินเพิ่มทุนจำนวนกว่า 540 ล้านบาท ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า "กลุ่มอภิจารี" ซึ่งคุมการบริหารอยู่ จะฟื้นฟูฐานะทางการเงินของบริษัทได้
การเติมเงินเข้าไปใหม่ จึงมีความเสี่ยง ผู้ถือหุ้นเดิมอาจเสียหายหนักขึ้น การเพิ่มทุนครั้งนี้จึงไม่มีแรงจูงใจให้ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อ
เพราะเงินที่เติมเข้าไป จะตกอยู่ในมือของฝ่ายบริหารกลุ่มอภิจารี ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนทำให้กิจการก้าวสู่ความตกต่ำ และใกล้สิ้นสภาพเป็นบริษัทจดทะเบียน
หุ้น TSF ยังถูกพักการซื้อขาย และไม่มีแนวโน้มว่าจะได้กลับมาซื้อขายได้อีกเมื่อใด นอกจากนั้น ราคาหุ้นปิดครั้งสุดท้ายอยู่ที่ 1 สตางค์ แต่ราคาหุ้นเพิ่มทุนขายที่หุ้นละ 2 สตางค์
ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีสติสัมปชัญญะ คงไม่มีใครขนเงินไปถมใน TSF แน่ เพราะอันตรายเห็นๆ เสี่ยงชัดๆ
การขยายเวลาการชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน TSF จำนวน 27,083.03 ไปอีก 2 สัปดาห์ คงไม่ช่วยให้แผนการดูดเงินจากผู้ถือหุ้นเดิมครั้งนี้สำเร็จสมความตั้งใจของฝ่ายบริหารบริษัท
เพราะหาเหตุผลสนับสนุนไม่ได้จริงๆ ว่า ทำไมผู้ถือหุ้นเดิมต้องใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน TSF