เกียรตินาคินภัทร เผยแผนปี 63 ตั้งเป้าสินเชื่อโต 7-9% หวังแรงส่งจากปลายปีก่อนช่วยหนุน แต่พร้อมปรับตัวหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง พร้อมตั้งเป้าเอ็นพีแอลดลงเหลือ 3.9%
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) กล่าวว่า แผนธุรกิจของธนาคารในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโต 7-9% ซึ่งมองว่าการเติบโตของสินเชื่อที่ดีในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 จะมีโมเมนตัมต่อเนื่องมาถึงปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของธุรกิจวาณิชธนกิจที่มีดีลใหญ่ๆ เสร็จสิ้นในช่วงปลายปี และน่าจะมีต่อมาถึงปีนี้ รวมถึงธุรกิจตลาดเงินก็ไปได้ดี และธุรกิจ Wealth Management ที่มียอดสินทรัพย์ในการบริหาร (AUM) เติบโตจากปีก่อนหน้าประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งในปีนี้ที่แนวโน้มดอกเบี้ยลงธุรกิจนี้ก็น่าจะยังเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในขณะนี้ ก็จะเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวังด้วย
"ในปี 2562 ที่ผ่านมา มีปัจจัยภายนอกที่ทำให้เศรษฐกิจเกิดความผันผวนหลายประการ แต่ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจถือว่าออกมาในระดับที่น่าพอใจ ส่วนในปีนี้แม้ว่าเราตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโต 7-9% สูงกว่าปีก่อนที่ 4.2% แต่เราก็ไม่ได้จะโตสุ่มสี่สุ่มห้า เราประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา และมีการเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงปรับตัวให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ให้ได้ แต่ตัวเลขต่างๆ ของธนาคารที่ออกมาในช่วงเดือนแรกของปีก็ยังไปได้อยู่"
สำหรับการตั้งสำรองตามมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 9 นั้น ธนาคารมีการกันสำรองอย่างเพียงพอตามเกณฑ์ และยังมีส่วนที่เกินประมาณ 1,200-1,500 ล้านบาท ที่สามารถนำบวกคืนเป็นกำไรภายใน 5 ปีได้ตั้งแต่ปีนี้ ส่วนการกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญรายปีนั้น ก็คงพิจารณาไปตามสภาวการณ์ในแต่ละปีเช่นเดิม
นายฟิลิป กล่าวว่า การเติบโตของสินเชื่อนั้น ยังคงเน้นการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค และโตในแบบที่เรียกว่า Smart Glowth เน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้ บริการและระยะเวลาการอนุมัติที่รวดเร็ว และความร่วมมือพันธมิตร หรือดีลเลอร์ที่มีอยู่ ซึ่งการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อในช่วงครึ่งหลังของปีก่อนก็เป็นผลมาจากการปรับปรุงกระบวนการพิจารณาสินเชื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงจะต้องดูแลลูกค้าอย่างละเอียดรอบคอบมากขึ้นด้วย โดยในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อนั้น เราจะเน้นขยายในส่วนของรถมือสองที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงก็สูงขึ้น จึงอาจจะทำให้ตัวเลขสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อสูงขึ้น แต่ก็ยังเป็นอัตราที่ยังบริหารจัดการได้
ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2563 โดยคาดการณ์อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) ที่ 13-15% จากปีก่อนที่ 13.1% สินเชื่อเติบโต 7-9% จากปีก่อนหน้าที่ 4.2% เอ็นพีแอลที่ 3.9% จากปีก่อนหน้าที่ 4.0% มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ 4.6-4.8% จากปีก่อนหน้าที่ 4.7% และ Credit Cost ที่ 1.4-1.6% จากปีก่อนหน้าที่ 1.33%